TNN online กว่าจะมีวันนี้ "น้ำตาล ชลิตา" เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ

TNN ONLINE

บันเทิง

กว่าจะมีวันนี้ "น้ำตาล ชลิตา" เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ

กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ

ฉากหน้านางงามที่สวยพร้อมเพอร์เฟคท์ของน้ำตาล ชลิตา เปิดใจที่แรก กับเรื่องที่น้อยคนจะรู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ชีวิตผ่านความลำบากมาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ต้องขอข้าววัดกิน ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยแบ่งเบาแม่ พร้อมเล่าถึงประสบการณ์เฉียดตายหลายครั้ง อีกทั้งยังเผยถึงเรื่องนางฟาดเกรียนคีย์บอร์ด กับแฮชแทค #ทุกคำด่ามีราคาเสมอ โดยเจ้าตัวมาเปิดใจทุกเรื่อง ทุกประเด็นในรายการคุนแซ่บSHOW

ผมสั้นแล้วแซ่บขึ้น?

น้ำตาล : คนก็ทักเยอะว่าเปลี่ยนลุค แต่ส่วนใหญ่คนจะเสียดาย เพราะเราผมยาว เราชอบเหมือนรู้สึกว่ามีเวลาในการนอนมากขึ้น สระผมเป่าแล้วแห้งง่าย


มีโรคจิตมาขอซื้อกางเกงใน?

น้ำตาล : เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง เราไลฟ์ในไอจีก็คุยตอนนั้นกำลังจะเล่าเรื่องผี กำลังอ่านเมนต์เขาพิมพ์มายาวมาก มีเรทด้วยขอซื้อกางเกงในคุณ ถ้าใส่แล้วราคาเท่านี้ ถ้ายังไม่ใส่ราคาเท่านี้ เราก็แบบอะไรเนี่ย ตอนนั้นก็ด่ากลับว่าโรคจิตปะเนี่ย ทำไมถึงอยากจะมาซื้อของของคนอื่นเขา ต้องไปบำบัดจิตนิดนึงแล้วแหละ เราบล็อคเลย ซื้อกางเกงในเจอบ่อยมาก


ไม่เคยเจอพ่อแท้ๆ เลย?

น้ำตาล : ไม่เคยเลยตั้งแต่เกิด เขาอาจจะเลี้ยงหนูตอนเด็กๆ มากๆ เราโตขึ้นมาเราก็ไม่รู้แล้วว่าเรามีพ่ออยู่กับแม่มาตลอดจนไม่รู้สึกขาดอะไร คุณพ่อก็มีติดต่อมาบ้างผ่านพี่นุ่ม (ผู้จัดการ) แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรหรือเรียกยังไงเพราะเราไม่มีความรู้สึกว่าเราขาดตรงนั้น เลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ณ ตอนนี้ค่ะ เขาบอกผ่านทางพี่นุ่มว่าอยากคุยอยากเจอหน้า แต่เรารู้สึกว่าถ้าอยากเจอมันก็น่าจะตั้งแต่เด็กแล้วที่เรายังเรียนอยู่หรือที่เราลำบากอยู่ เขาน่าจะเอื้อมมือมาช่วยเราตรงนั้นแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเราผ่านความลำบากกับแม่มาในทุกๆ ช่วงในชีวิตมาเยอะมาก มันทำให้เรารู้สึกไม่ได้ขาดความอบอุ่นทางด้านครอบครัว


น้อยใจหรือโกรธ?

น้ำตาล : ไม่น้อยใจเลยค่ะเพราะว่าแม่เติมเต็มตรงส่วนที่เราขาดให้ได้ดีมากๆ แล้ว ไม่ได้รู้สึกโกรธไม่ได้รู้สึกเกลียด ไม่รู้สึกอะไรเลยตอนนี้


พ่อพยายามติดต่อมาหลายครั้ง หลังจากนี้จะมีโอกาสได้เจอกันไหม?

น้ำตาล : หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกไม่ถูก อยากเจอไหมหนูรู้สึกว่าไม่ได้อยากจะเจออะไรตรงนั้นแล้ว ไม่รู้จะทำตัวยังไง ทุกวันนี้พ่อที่อยู่กับหนูเขาก็ดูแลครอบครัวช่วยดูน้องดูแม่ก็โอเคแล้ว


ก่อนหน้านี้เคยคุยกับแม่ไหมว่าอยากเจอคุณพ่อ?

น้ำตาล : ไม่เคยได้ถามเลยค่ะ เพราะว่าตลอดระยะเวลาชีวิตที่ผ่านมาเราต้องอยู่กับแม่ทำงานอยู่ตลอดเวลา เราไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องตรงนั้น 


บอกแม่ไหมว่าพ่อติดต่อมา?

น้ำตาล : บอกค่ะ แม่แล้วแต่หนูเลยว่าอยากคุยหรือเปล่าหรืออะไรยังไง


ถ้าพ่อดูอยู่เขาจะเสียใจไหม?

น้ำตาล : หนูก็ไม่รู้จะพูดยังไงอาจจะมีนิดนึง ก็ขอบคุณที่ทำให้หนูเกิดมา แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ได้เหมือนกัน


โดนเพื่อนล้อไหมตอนเด็ก?

น้ำตาล : ไม่มีนะคะ เหมือนเราไม่ได้เปิดเผยครอบครัว

โชคดีที่เพื่อนรอบๆ กายเราไม่ได้มีความรู้สึกต้องมานั่งล้อว่าไม่มีพ่อ ขาดความอบอุ่น ไม่มีค่ะ


มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณพ่อบ้าง แบบทำงานอะไรหรืออยู่ที่ไหน คุณแม่เล่าให้ฟังบ้างไหม?

น้ำตาล : ไม่เคยเลยค่ะ ส่วนใหญ่คุณแม่ทำงาน แม่ไปออกรอบเป็นแคดดี้ทั้งวันแล้ว หนูก็ไปเป็นแม่บ้านแทนแม่ทั้งวันแล้ว กลับมานั่งกินข้าวกันแล้วก็นอน


ลำบากตั้งแต่เด็ก?

น้ำตาล : แม่เคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ ที่ออกมาจากพ่อ แม่เอาหนูมาคนเดียวไม่มีเงินสักบาท ต้องไปขอข้าววัดกิน ไปให้ป้าช่วย ให้เพื่อนๆ แม่ช่วย ชีวิตแม่กับหนูจะมีอุปสรรคในทุกๆ ช่วงตลอดที่โตมาเลย แม่เจอเพื่อนโกง พอผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนลำบากขึ้น เราเจอหลายๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ต้องไปอยู่ห้องแถวสังกะสีช่วงประถม มัธยม ตอนนั้นมันเหนื่อยจนน้อยใจโชคชะตามาก


เหนื่อยยังไงบ้าง?

น้ำตาล : แม่ไปทำงาน ถ้าวันไหนว่างจากแคดดี้แม่จะไปขับแท็กซี่หรือไปเป็นกระเป๋ารถเมล์ หนูเองจะไปเป็นแม่บ้านแทนแม่ ไปทำงานที่โบสถ์ที่ทองหล่อ ทำมาเรื่อยๆ ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยเราเป็นเด็กเรากลัวการเดินทาง เราไม่รู้เส้นทางเราจะกลัว เหนื่อยก็เหนื่อยไหนจะมากลัวว่าเลยป้ายไหมต้องลงตรงไหน ค่อนข้างเครียดนะตอนนั้นทำอยู่นาน เพิ่งมาทำสนามบินตอนช่วงม.3


รายได้พอค่าใช้จ่ายตอนนั้นไหม?

น้ำตาล : พอหาเช้ากินค่ำ พอในตรงนั้นแต่เราไม่ได้มีเงินเก็บ หนูไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวหรือไปเล่นกับเพื่อนเลย เราพยายามตั้งใจเรียนอยู่ห้องคิงมาตลอด วิทย์-คณิต เราเป็นคนใฝ่มากกว่า พยายามขยันให้เท่ากับคนเก่งมากกว่า


อิจฉาเพื่อนรอบข้างไหมเขาได้ใช้ชีวิต ได้ไปเที่ยว?

น้ำตาล : ก็แอบน้อยใจบ้างในบางช่วง แต่ตอนนั้นเราก็รู้สึกสนุกกับการทำงาน ได้สอนชีวิตเราตั้งแต่เด็กเหมือนกันในการมีระเบียบ รู้จักคิด บางคนอาจจะไม่เคยทำในสิ่งที่เราทำตอนอายุนั้นก็ได้ พอโตขึ้นมาเราพยายามหางานที่มันต่อกับความรู้ของเราได้ เช่น ทำงานในสนามบินก็ช่วยในเรื่องการพูดภาษาอังกฤษ


เหนื่อยลำบากตั้งแต่เด็ก เคยบอกแม่ไหมว่าให้กลับไปหาพ่อ เผื่อชีวิตจะดีขึ้น?

น้ำตาล : ไม่เคยได้คิดตรงนั้นเลย เพราะว่าเหมือนแม่เขาเติมเต็มให้เราแล้วไม่ได้รู้สึกขาดอะไรเลย


มีช่วงท้อ แอบร้องไห้คนเดียวบ้างไหม?

น้ำตาล : มีค่ะ ช่วงที่นั่งรถไปทำงานนั่นแหละ มันเหนื่อยมากนะคะทำงานมาทั้งวัน ส่วนคุณแม่เขาไม่ค่อยแสดงให้เราเห็น เขาบอกว่าเขาเหนื่อย แต่เขาพยายามสู้เพื่อหนู หนูเลยรู้สึกว่าแม่ยังสู้เพื่อเราเลยทำไมเราจะสู้เพื่อแม่ไม่ได้


ตอนเด็กทำไมย้ายโรงเรียนบ่อย?

น้ำตาล : แม่หนูทำงานหลายที่มาก ถ้าแม่ไปทำงานต่างจังหวัดหนูก็ต้องย้ายไปต่างจังหวัดเรียนที่นู่น เพื่ออยู่ใกล้แม่อยู่กับแม่ ย้ายโรงเรียนบ่อยมากจนจำไม่ได้

 

ลำบากสุดๆช่วงไหน?

น้ำตาล : ก็น่าจะช่วงตอนประถม มัธยมนี่แหละ พอหนูโตขึ้นหนูก็ต้องทำหลายอย่างมากขึ้น เรียนก็หนักด้วย


แม่บอกไหมช่วงที่เหนื่อยเยอะๆ กำลังใจมากจากไหน?

น้ำตาล : มาจากหนูนี่แหละค่ะ แม่เขาอยากให้หนูโตมามีหน้าที่การงานที่ดี ได้ทำงานที่มั่นคง มีชีวิตที่มั่นคง


ทุกวันนี้ห่วงอะไรแม่บ้าง?

น้ำตาล : ห่วงเรื่องสุขภาพ เพราะเมื่อก่อนแม่อ้วนมากแล้วเจ็บเข่า พยายามบอกแม่ให้ลดน้ำหนัก พยายามออกกำลังกาย ผอมลงแล้วค่ะ


สมัยก่อนเราดื้อไหม?

น้ำตาล : เราก็รู้สึกว่าดื้อในระดับนึงเหมือนกัน แบบเด็กวัยรุ่นทั่วไปอยากไปเที่ยว สอบเสร็จเร็วก็ไปห้างกับเพื่อน แต่ไม่มีเรื่องเพราะเราไม่อยากใช้ชีวิตให้แม่ต้องมานั่งลำบากใจ


เฉียดความตายมาบ่อย?

น้ำตาล : รถคว่ำตอนเด็กๆ แม่เล่าให้ฟังหนูจำไม่ได้เด็กมาก รถคว่ำด้วยกันหนูก็ต้องเย็บหน้าผาก ที่มอไซค์ประมาณอนุบาล กำลังจะไปเรียนแล้วฝนตก แม่ไปส่งที่โรงเรียน มีรถมอไซค์อีกคันมา เรากระเด็นเข้าลวดหนาม แต่หนูมีกระเป๋าแล้วแม่ก็เอาตัวบังเราด้วย หนูเป็นแค่ถลอกตรงขา แต่แม่ลวดหนามเต็มหมดเลย มีอีกแม่ตกรถสิบล้อเป็นอัมพาตครึ่งตัว ตอนนั้นทำรถสิบล้อไปส่งของไปต่างจังหวัดบ่อย เราก็ไม่รู้ว่าตกท่าไหน กลับมาคือฝุ่นเต็มตัวหามมาส่งที่บ้าน ตอนนั้นเขาช่วยเหลือตัวเองได้ไม่มากเพราะเป็นอัมพาตครึ่งตัว เราก็ยังเด็กๆ พยายามดูแลแม่เท่าที่ดูได้


แม่ไปทำงานไม่ได้ มีเงินไหม?

น้ำตาล : มีเงินเก็บตรงนั้นด้วย และมีป้าที่คอยซัพพอร์ตด้วย


ฟาดกลับเกรียนคีบอร์ด?

น้ำตาล : หนูไม่ได้ปรี๊ดแตกอะไรใส่เขา หนูรู้สึกว่าเขาก็คนเราก็คน เขาคอมเมนต์เราได้ เราก็คอมเมนต์กลับเขาได้เหมือนกัน หนูไม่ได้รู้สึกว่าเขาบูลลี่อะไร แค่ตอบกลับขำ อย่างมีป้าคนนึงบอกหน้าเหมือนคางคกเลย เราเลยบอกคุณป้าหน้าเหมือนเขียดตะปาดเหมือนกันนะคะ


มีคอมเมนต์ไหนรับไม่ได้ไหม?

น้ำตาล : มาแซะเรื่องครอบครัวด่าถึงพ่อแม่ไม่ค่อยโอเค ตาลเป็นคนที่ฟังวิจารณ์ความเห็นของทุกๆ คนเยอะมาก เพราะว่าเราก็รู้ว่าอยู่ในจุดไหนที่เราต้องฟังกับเขา แต่ถ้ามันมากเกินไป มันต้องมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งนี้มันล้ำเส้นเกินไปแล้ว


คนมาแซะเราเรื่องอะไรเยอะสุด?

น้ำตาล : มันแล้วแต่ช่วงเลยว่าช่วงนั้นมันจะเกิดเหตุการณ์อะไร อย่างเรื่องภาษา ทำไมเดี๋ยวนี้ปากเก่งทำไมตอนที่ประกวดยังใช้ล่ามไม่พูดไปเลยล่ะ หนูรู้สึกว่ามันผ่านมาแล้ว เราบอกทุกคนแล้วว่าเราไม่เก่งทางด้านนี้และเราซีเรียสด้านนี้มากๆ


หลายเรื่องที่เจอในคอมเมนต์มันทำให้เป็นปมในใจบ้างไหม?

น้ำตาล : มันเป็นแรงผลักดันให้เราต้องพัฒนาตัวเองจากตรงนั้นมากกว่า ถ้าเรามานั่งจม นั่งนอยด์สุขภาพจิตเราก็จะไม่ดี


อธิบายแฮชแทค #ทุกคำด่ามีราคาเสมอ ?

น้ำตาล : มันเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากกว่าค่ะ โซเชียลมีเดียมันไวมาก ใครอยู่ที่ไหนก็พิมพ์ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ ไม่ใช่คึกคะนองพิมพ์ไปพร้อมความสะใจของตัวเอง หรืออกมาพูดให้ทุกคนแบบฉันแน่ ฉันเจ๋ง


ที่เป็นคดีความไปถึงไหนแล้ว?

น้ำตาล : ตอนนี้ก็ส่งเรื่องไปทางเขา คำวิจารณ์ที่มาด่าๆ ถ้าหนูใส่ใจจริงๆ ได้หลายล้าน แต่ไม่อยากใส่ใจมากบางคนโปรไฟล์ยังอวตารอยู่เลย แล้วมาด่าคนอื่นเขา หนูอยากรู้ว่าชีวิตเขาดีมากแล้วใช่ไหมถึงมาใส่กับคนอื่นแบบนี้ อันไหนที่มากเกินไปจริงๆ เราก็ต้องทำ


มีคอมเมนต์บอกเป็นนางงามสร้างกระแส?

น้ำตาล : ถ้าหนูสร้างกระแสคงจะฟ้องตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้วที่คนมาด่าหนู ตอนได้นางงามมีคนไดเรคมาด่าถึงพ่อถึงแม่ก็มี ทุกวันนี้โลกของเรามันโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆไม่อยากให้คนเรามานั่งโหดร้ายกันเอง เราอยากให้รู้ลิมิตของตัวเองมากกว่า


รำคานไหมเวลามีคนมาแซะ?

น้ำตาล : นิดนึง อยากบอกเขาว่าเอาเวลาไปพักผ่อนดีกว่า


สายมูหนัก?

น้ำตาล : มันเป็นความเชื่อส่วนตัว เพิ่งมาเข้าวงการการมูตอนประกวดนี่เอง ปกตินับถือพระพิฆเณศกับพญานาค เคยเรียนที่สารคามไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่คำชะโนดตอนนั้นยังไม่ดัง หนูไปแล้วแฮปปี้มาก ชอบมาก หนูชอบพญานาค


มีเรื่องปาฏิหาริย์?

น้ำตาล : ในช่วงที่หนูลำบากหนูขอให้มีงานเข้ามาได้ผ่อนบ้าน ดูแลครอบครัว ได้กินต่อๆ ไป ไม่กี่วันก็มีงานเข้ามาเลย


ได้ขอความรักบ้างไหม?

น้ำตาล : ไม่ได้ขอความรักเลย หนูรู้สึกว่าถึงเวลามันก็มาเอง


น้ำตาลพูดในไลฟ์แอน ชิลี คือคนที่กอง MU ตามหา?

น้ำตาล : เขามีการจัดการระบบความคิด ระบบของตัวเองได้ดีมาก เขาไม่เคยประกวดมาก่อนแต่ได้มงเลย เขามีวิธีการต่อสู้กับแรงกดดันหลายๆ ด้าน เขาทำค่อนข้างได้ดีมากๆ เลย


แอน ชิลีโดนบูลลี่เรื่องหุ่น?

น้ำตาล : คนอาจจะชินกับคำว่านางงามที่ต้องหุ่นดีมากๆ เขาก็เข้ามาเปลี่ยนในวงการนางงามเป็นคนแรกของไทยเลยด้วยซ้ำ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


กว่าจะมีวันนี้ น้ำตาล ชลิตา เผยชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ


ข้อมูลจาก : รายการคุยแซ่บShow 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง