ศาลสั่งปรับ "น้ำหวานเดอะเฟซ" กับพวกคนละ 5 พัน จำคุก 15 วัน รอลงอาญา1ปี ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งประชาสัมพันธ์กรณีเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมาปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเอกมัย ลักลอบเปิดให้บริการแบบส่วนตัว อันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ต่อมา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
โดยเบื้องต้นทราบว่าสถานที่ที่เกี่ยวข้องตามข่าว คือร้านอาหารชื่อคิวบ์ เอกมัย ตั้งอยู่ที่อาคารปาร์ค เอวนิว ซอย สุขุมวิท 63 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงให้ สน.คลองตัน ร่วมกับสำนักงานเขตวัฒนา ลงพื้นที่ เพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบ พบว่าร้านคิวบ์ มีนายพรมนัส สังวรณ์ เป็นเจ้าของร้านและมีนายชาคริต มีทรัพย์มาก เป็นผู้จัดการอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งสองมาสอบปากคำ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ทราบว่านายพรมนัส เจ้าของกิจการร้านอาหารดังกล่าวปัจจุบันปิดให้บริการตามประกาศกรุงเทพมหานคร และอยู่ระหว่างการตกแต่งต่อเติม และก่อสร้างภายในร้านบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ไว้สำหรับบริการลูกค้า สำหรับชั้น 3 ชั้น 4 และชั้น 5 ของอาคารนายพรมนัสและนายชาคริต ใช้เป็นที่พักอาศัยส่วนตัวเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลาประมาณ 01.00 น. กลุ่มเพื่อนนายพรมนัส รวม 8 คน มาหานายพรมนัส ที่อาคารดังกล่าว โดยนายพรมนัสและกลุ่มเพื่อนนั่งกินข้าวกันอยู่บริเวณพื้นที่ชั้น 3 ของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของอาคาร ไม่เกี่ยวข้องกับร้านแต่อย่างใด โดยนายพรมมัสยืนยันว่าทางร้านปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการมารวมกลุ่มกันของกลุ่มเพื่อนที่บริเวณชั้นบนของร้านในยามวิกาล หากจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่
โดยวันนี้ (5 ก.ค.) พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.คลองตัน รายงานความคืบหน้าทางคดีว่าพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหา 8 ราย ที่ร่วมกันอยู่ในที่เกิดเหตุตามวันเวลาดังกล่าวซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.รักษ์นภัค วงศ์ธนทัศน์ หรือน้ำหวาน เดอะเฟซ ดาราสาวรวมอยู่ด้วย ดำเนินคดีต่อศาลแขวงพระนครใต้ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘” อันเป็นความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 และ 18, ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ข้อ 2 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ล่าสุดศาลมีคำพิพากษา ปรับจำเลยทั้ง 8 คนละ 5,000 บาท จำคุก คนละ 15 วัน โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี
ขอบคุณภาพอินสตาแกรม namwan_raknapak
