เลือกตั้ง 2566 ประวัติ "จาตุรนต์ ฉายแสง" ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
เลือกตั้ง 2566 เปิดประวัติ-การทำงาน "จาตุรนต์ ฉายแสง" ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 13 พรรคเพื่อไทย
เลือกตั้ง 2566 เปิดประวัติ-การทำงาน "จาตุรนต์ ฉายแสง" ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 13 พรรคเพื่อไทย
จาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 13 พรรคเพื่อไทย ชื่อเล่น อ๋อย เกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2499 ที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นนักเศรษฐศาสตร์และนักการเมืองชาวไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารเอเชียวีคให้เป็น 1 ใน 20 ผู้นำชาติเอเชียที่มีบทบาทโดดเด่นในศตวรรษที่ 20
จาตุรนต์ ฉายแสง เป็นบุตรคนโตของอนันต์ ฉายแสง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฉะเชิงเทรา และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช กับ นางสาว เฉลียว ฉายแสง
ประวัติการศึกษา
-ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอเมริกัน วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
-ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ประสบการณ์การทำงาน
-รองนายกรัฐมนตรี
-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
บทบาททางการเมือง
จาตุรนต์ ฉายแสง ก้าวเข้าสู่การเมืองครั้งแรกจากการชักชวนของผู้เป็นพ่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2529 ในนาม พรรคประชาธิปัตย์และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ฉะเชิงเทราสมัยแรก และสมัยที่ 2 ในปี 2531 และได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาชน] ซึ่งนำโดยนายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ ต่อมาได้ย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับการเลือกตั้งต่อเนื่องกันมาโดยตลอด จนกระทั่งในการเลือกตั้งปี 2544 จาตุรนต์ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อสังกัดพรรคไทยรักไทย จนกระทั่งเกิดรัฐประหารในปี 2549
ภายหลังรัฐประหาร ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จาตุรนต์ ได้เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรครักษาการแทน
หลังตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักไทยด้วยมติเอกฉันท์ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 แล้ว ซึ่งก่อนมีคำตัดสิน จาตุรนต์ รักษาการหัวหน้าพรรค มีท่าทีว่าจะขอน้อมรับมติของศาล แต่หลังจากนั้นแล้ว จาตุรนต์ได้เดินทางไปที่ทำการพรรคและปราศรัยว่า เป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม เป็นคำพิพากษาที่มาจากปากกระบอกปืน ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้าน คมช.
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 จาตุรนต์ ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 39
หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม เขาถูกทหารควบคุมตัวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ถนนเพลินจิต โดยจาตุรนต์มิได้ขัดขืน ระหว่างการแถลงต่อผู้สื่อข่าว[9]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จาตุรนต์ ฉายแสง ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ลำดับที่ 2 แต่พรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง ต่อมาเขาได้กลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 ได้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ในลำดับที่ 13
ตำแหน่งในพรรคการเมือง
-ปี พ.ศ. 2535 - 2538 ดำรงตำแหน่ง โฆษกพรรคความหวังใหม่
-ปี พ.ศ. 2540 - 2542 ดำรงตำแหน่งเป็น รองเลขาธิการพรรคความหวังใหม่
-ปี พ.ศ. 2542 - 2544 ได้รับเลือกเป็น เลขาธิการพรรคความหวังใหม่
-ปี พ.ศ. 2544 ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรค สังกัดพรรคไทยรักไทย
รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ
-ปี พ.ศ. 2539 - 2540 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยเป็นการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรก ของนายจาตุรนต์ ฉายแสงในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ[15]
-ปี พ.ศ. 2544 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
-ปี พ.ศ. 2545
เดือนมีนาคม 2545 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เดือนตุลาคม 2545 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
-ปี พ.ศ. 2548
เดือนมีนาคม 2548 ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
เดือนสิงหาคม 2548 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และหลังจากนั้นได้ดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แทนทักษิณ ชินวัตร
ที่มา wikipedia / พรรคเพื่อไทย
ภาพจาก Chaturon Chaisang