TNN online เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”

TNN ONLINE

เลือกตั้ง2566

เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”

เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”

เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย” เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ฟรี ทุกจังหวัด - ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ

เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”



ในฐานะพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และมีนาย อนุทิน  ชาญวีรกูล เป็นทั้งหัวหน้าพรรค และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาเรื่องของนโยบายสาธารณสุข ค่อนข้างมาก เพราะทั้งประชาชนและพรรคการเมืองด้วยกันเองต่างตั้งตารอฟังนโยบายสำคัญนี้ 

การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย ชู  2 เรื่องสำคัญ เป็นจุดขาย นั่นคือ 

เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”


1.เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ฟรี ทุกจังหวัด 


2. ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ เป็นนโยบายขับเคลื่อนหลักด้านสาธารณสุข


เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”




พรรคภูมิใจไทย มองว่า โรคมะเร็ง และ โรคไต เป็นโรคที่เป็นปัญหาใหญ่ของระบบสาธารณสุขไทย และใช้งบประมาณในการรักษาปีละหลายหมื่นล้านบาท


คนไทย เป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นวันละเกือบ 400 คน หรือ ประมาณ 150,000 คนต่อปี และ เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง วันละ 230 คน หรือ มากกว่า 80,000 คนต่อปี จำนวนมากเป็นการสูญเสีย ที่ไม่ควรจะสูญเสีย

การสูญเสีย เกิดจากการเข้าไม่ถึงการรักษาอย่างทันเวลา เพราะต้องรอคิวการรักษา เป็นเวลานาน เนื่องจากเครื่องฉายรังสี มีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย และ โรงพยาบาลที่มีเครื่องฉายรังสี อยู่ห่างไกล การเดินทางมีปัญหากับผู้ป่วย และครอบครัวที่ต้องมาดูแลผู้ป่วย รวมทั้งมีปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไกล อีกด้วย


การรอเวลารักษานาน และการเดินทางไกล เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ป่วย ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว จนโรคมะเร็งมีอาการลุกลาม รักษาไม่ได้ผลดี และต้องเสียชีวิตไป

พรรคภูมิใจไทย เห็นปัญหาผู้ป่วยมะเร็ง เข้าไม่ถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เป็นปัญหาใหญ่ ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียทางร่างกาย จิตใจ และกระทบต่อรายได้ของผู้ป่วยและครอบครัว อย่างรุนแรง เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข ด้วยการติดตั้งเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ให้โรงพยาบาลทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 เครื่อง เป็นอย่างน้อย


เลือกตั้ง 2566 ส่องนโยบายสาธารณสุข “พรรคภูมิใจไทย”


จากปัจจุบันที่มีอยู่ 22 จังหวัด ต้องมีให้ครบทุกจังหวัด ภายใน 4 ปี และต้องรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว มีโอกาสหายจากอาการป่วยได้มากที่สุด และ ครอบครัวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายการเดินทาง และค่าที่พัก เมื่อต้องติดตามไปดูแลผู้ป่วยหากต้องไปรักษาในโรงพยาบาลที่ห่างไกลบ้าน


ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโรคไต ครั้งล่าสุด ของประเทศไทย เมื่อปี 2565 พบว่า คนไทย ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังที่ต้องเข้ารับการรักษามากถึง 11.6 ล้านคน ทุกๆ ปี จะมีผู้ป่วยโรคไต เพิ่มขึ้นมากกว่า 8,000 คน ติดอันดับ 1ใน 5 ของประเทศที่มีผู้ป่วยโรคไต เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก


ปัจจุบัน มีคนไทย มากกว่า 200,000 เป็นผู้ป่วยที่ต้องล้างไต หรือ ฟอกไต หรือ ฟอกเลือด และ รอการเปลี่ยนไต เพื่อจะกลับมามีชีวิตใกล้เคียงปกติ แต่จำนวนเครื่องฟอกไต ยังมีไม่เพียงพอ และ กระจุกอยู่ในจังหวัด ลงไปถึงระดับอำเภอ ไม่มากนัก

แม้ว่า ปัจจุบัน ผู้ป่วยโรคไต สามารถใช้สิทธิฟอกไตฟรีได้ทุกกรณี ตามนโยบายนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วยโรคไต ได้คนละ 12,000 บาท ต่อเดือน แล้ว ยังลดความเหลื่อมล้ำของผู้ป่วยโรคไต ไม่มีผู้ป่วยคนใดต้องเสียเงินจากการฟอกไต


แต่การบริการฟอกไตฟรี ยังไม่ทั่วถึง และผู้ป่วยจำนวนมาก ยังเข้าไม่ถึง เพราะการเดินทางไกล และเดินทางลำบาก เป็นเหตุให้ผู้ป่วย ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และเสียชีวิต

พรรคภูมิใจไทย เข้าใจถึงความลำบากของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง และครอบครัวผู้ป่วย ที่ต้องได้รับผลกระทบทั้งร่างกาย จิตใจ รายได้ที่หดหาย รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น จึงเสนอนโยบาย จัดตั้งศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ ภายใน 4 ปีเพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตทุกคน เข้าถึงการรักษาได้เร็ว และ ทั่วถึง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและครอบครัว


รัฐบาลต้องลงทุนด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น และเป็นไปตามความต้องการของประชาชน ซึ่งการกระจายการรักษาโรคมะเร็ง และโรคไต ให้ไปถึงประชาชน ได้อย่างทั่วถึง จะเป็นการสร้างหลักประกัน และความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ลดการสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัว



ติดตาม TNN Health ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่

Website : https://www.tnnthailand.com/news/health/

Facebook : https://bit.ly/TNNHealthFacebook

Youtube : https://bit.ly/TNNHealthYoutube

TikTok : https://bit.ly/TNNHealthTikTok

Line @TNNHEALTH : https://lin.ee/MNckVHq

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/TNNHealthFacebook

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง