“ราคาน้ำมันดิบโลก” จ่อพุ่งขึ้น หลังเลือกตั้ง
Standard Chartered คาด “ราคาน้ำมันดิบโลก” จ่อพุ่งขึ้น หลังเลือกตั้งสหรัฐ เหตุความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Standard Chartered Plc วิเคราะห์ว่า ตลาดน้ำมันผ่อนคลายเร็วเกินไปจากความเสี่ยงในตะวันออกกลาง จากความขัดแย้งใหม่ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านหลังการเลือกตั้งสหรัฐ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
เอมิลี่ แอชฟอร์ด และพอล ฮอร์สเนลล์ นักวิเคราะห์ Standard Chartered Plc กล่าวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมว่า “เราเห็นความเสี่ยงของการโจมตีที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการแก้ไขปัญหาทางการทหารหรือการทูตในเร็วๆ นี้” ซึ่งช่วงเวลา 2 เดือนก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 เป็นช่วงเวลาที่อาจเกิดการทวีความรุนแรงมากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2567 หลังจากอิสราเอลโจมตีอิหร่านตอบโต้ล่าสุด แต่ไม่กระทบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของผู้ผลิตน้ำมันในโอเปก การเลือกเป้าหมายดังกล่าวช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทันทีต่อการไหลของน้ำมันดิบ และหันความสนใจของนักลงทุนกลับไปที่การคาดการณ์ว่าดุลน้ำมันโลก จะทรุดตัวลงในปี 2568
นักวิเคราะห์ ระบุว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดมีแนวโน้มว่าการที่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกครั้งก็เพื่อลดความรุนแรงลง ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าอิสราเอลจะยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์หลายประการในอิหร่าน และขอบเขตของการดำเนินการเพิ่มเติม และน่าจะกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทันทีที่การลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสหรัฐสิ้นสุดลง”
ทั้งนี้ Standard Chartered คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานทั่วโลกจะอยู่ที่ 89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) คาดว่าจะอยู่ที่ 86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนท์ซื้อขายครั้งล่าสุดที่สูงกว่า 71 ดอลลาร์ โดยลดลงมากกว่า 7% ในปีนี้
ที่มา บลูมเบิร์ก
ข่าวแนะนำ