นักเศรษฐศาสตร์ชี้เฟด เดินหมากพลาด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจล่าสุดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) ชี้ว่าความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อ เศรษฐกิจสหรัฐ ในปีหน้า อาจมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำหนดอัตราดอกเบี้ยผิดพลาด

ทั้งนี้ จากการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 32 คน พบว่า 39% ระบุว่า ความผิดพลาดในการกำหนดนโยบายการเงินเป็นความเสี่ยงสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟด พยายามควบคุมเงินเฟ้อโดยหลีกเลี่ยงการสูญเสียอัตราการว่างงาน ในขณะที่ 23% มองว่า ความเสี่ยงคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้น และ 23% มองว่าความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยูเครนและตะวันออกกลางเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ

นอกจากนี้ ผลสำรวจของ NABE ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์มีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โดย 55% เชื่อว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ มากกว่าจะเติบโตเกินที่คาดไว้ โดยความกังวลหลักคือนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.8% ในปี 2568 จากที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.6% ในปีนี้ นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 4.2% สู่ระดับ 4.4% และอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 2.1% ภายในสิ้นปี 2568 แต่แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ นักเศรษฐศาสตร์ 2 ใน 3ไม่คาดว่าสหรัฐจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนกว่าจะถึงปี 2569 เป็นอย่างน้อย

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับวิธีการบริหารเศรษฐกิจหลังจากนี้ โดยบางคนกังวลว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงเกินไป ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวโดยไม่จำเป็น หรืออาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป จนเสี่ยงทำให้เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นอีก แม้ว่าค่ามัธยฐานของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจ จะสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยล่าสุด แต่หลายคนเชื่อว่าเฟดอาจออกนอกเส้นทางการปรับนโยบายไปแล้ว

ที่มา รอยเตอร์