TNN สายสีแดงจ่อชงครม.ต่อ 20 บาทตลอดสาย

TNN

เศรษฐกิจ

สายสีแดงจ่อชงครม.ต่อ 20 บาทตลอดสาย

สายสีแดงจ่อชงครม.ต่อมาตรการ 20 บาทตลอดสาย หลังผู้โดยสารพุ่ง มั่นใจคุ้มทุนเร็วใน 3 ปี

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า รฟฟท. ได้สรุปข้อมูลผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคม เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายระยะเวลามาตรการ 20 บาทตลอดสายออกไปเป็นปีที่ 2 ซึ่งประเมินว่า ปี 68 ผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 10%


ปัจจุบันรถไฟชานเมืองสายสีแดง มีขบวนรถ 25 ขบวน ใช้วิ่งให้บริการหมุนเวียน 10 ขบวนต่อวัน สายเหนือ (บางซื่อ-รังสิต) 178 เที่ยว/วัน สายตะวันออก บางซื่อ-ตลิ่งชัน 116 เที่ยว/วัน ความถี่ ในเวลาเร่งด่วน 10 นาที นอกเวลาเร่งด่วน 15 นาที รองรับผู้โดยสารได้ราว 2 แสนคนต่อวัน


ล่าสุดพบว่ามีตัวเลขผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่นำเสนอ ครม.เห็นชอบที่คาดว่า จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากมาตรการ 20 บาทตลอดสาย 10-15% หรือสูงสุด ประมาณ 20% ถือว่า เกินความคาดหมายและประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน ผู้โดยสารเฉลี่ย 30,000 คน/วันซึ่ง ทั้งปีคาดมีผู้โดยสาร 8-9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีเฉลี่ย 19,000 คน/วัน และคาดว่าปี 68 จะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 40,000 คน/วัน


นอกจากนี้ รฟฟท.ประเมินว่ากันยายนปี 2568 จะเชื่อมได้หลายสายมากขึ้น เช่นการ เชื่อมสายสีแดงกับสายสีม่วงที่บางซ่อน ยังคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นราว 10-20% มั่นใจว่าปี 2568 จะเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 15%


นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมทดลองทำฟีดเดอร์เชื่อม 3 พื้นที่กับรถไฟสายสีแดง ได้แก่ 1.สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-ตลาดนัดจตุจักร โดยใช้รถของรฟฟท.ให้บริการจำนวน 4 คัน เส้นทางวิ่งจะใช้พื้นที่ถนนด้านรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นหลัก กำหนดระยะเวลาวิ่งตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 18.00 น. เริ่ม 5 ตุลาคม 2567 เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ทดลองวิ่งให้บริการระยะเวลา 3 เดือน


เส้นทางที่ 2 เชื่อมจากตลิ่งชัน-สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า โดยรถชัตเติ้ลบัสของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ให้บริการโดยจะขอให้ผ่านจุดรับ-ส่งที่สถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงตลิ่งชัน


เส้นทางที่ 3 เชื่อมศูนย์ราชการ ผ่านรถไฟฟ้าสายสีแดง หลักสี่และผ่านศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์ (เส้นทางหมายเลข 8) ด้านหลังศูนย์ราชการคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเห็นภาพชัดเจน


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง