เฟดหั่นดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 “พาวเวล” ย้ำสหรัฐฯ ยังไร้สัญญาณถดถอย

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงร้อยละ 0.50 สู่ระดับร้อยละ 4.75-5.00 โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของเฟดในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ร้อยละ 0 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟด ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.50 ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมร้อยละ 1.00 ในปี 2568 และลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ในปี 2569 ด้วย ซึ่งหมายความว่าโดยรวมแล้ว Dot Plot บ่งชี้ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 2.00 หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้

เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อที่มีความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายร้อยละ 2 และสมดุลของความเสี่ยง คณะกรรมการฯ จึงได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงร้อยละ 0.50 ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการฯ จะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกัน คณะกรรมการฯ จะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ   

ทางด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวยืนยันภายหลังการประชุมว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงร้อยละ 0.50 ถือเป็นการปรับจุดยืนด้านนโยบายการเงิน เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และจะช่วยให้เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวสู่เป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราเริ่มกระบวนการปรับจุดยืนด้านนโยบายการเงินไปสู่ระดับที่เป็นกลางมากขึ้น อย่างไรก็ดี เฟดจะไม่มีการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า โดยจะตัดสินใจในเรื่องนี้ในการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป

"พาวเวล" ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า เขายังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ในขณะนี้ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาหลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50