ธปท.ชี้ 3 ประเด็นไทยโตแบบเดิมไม่ได้ | ย่อโลกเศรษฐกิจ
ผู้ว่าธปท. ชี้ 3 ประเด็นเศรษฐกิจไทยโตแบบเดิมไม่ได้ พร้อมชูโมเดล "ท้องถิ่นที่สากล"
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "สร้างไทยเข้มแข็งด้วยท้องถิ่นนิยม Localism Future of Thailand" ในงานสัมมนา "Big Heart Big Impact สร้างโอกาสคนตัวเล็ก..Power of Partnership จับมือไว้ไปด้วยกัน" ว่า ประเทศไทยจะเติบโตแบบเดิมไม่ได้แล้ว จะต้องหารูปแบบการเติบโตที่ใหม่และแตกต่างจากที่เคยเติบโตมา โดยมี 3 ประเด็นที่สะท้อนว่า ประเทศไทยจะเติบโตแบบเดิมไม่ได้แล้ว
หนึ่ง กว่า 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ไม่ไปถึงครัวเรือนเท่าที่ควร สะท้อนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน หรือ Nominal GDP เติบโตจากระดับ 100 เป็น 180 แต่รายได้รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนในภาคเหนือ อีสาน ใต้ เติบโตต่ำกว่า หรืออยู่ระดับ 153, 147, 124 ตามลำดับ
สอง หากพิจารณาในมุมของธุรกิจแล้ว พบว่าธุรกิจมีการกระจุกตัวค่อนข้างสูง โดยธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 ของธุรกิจทั้งหมด มีสัดส่วนรายได้สูงถึงร้อยละ 89-90 ของรายได้ของธุรกิจทั้งหมด ในขณะที่ธุรกิจเกิดใหม่หรือธุรกิจที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี พบว่าในช่วงหลังมีอัตราการตาย หรือ exit rate เพิ่มสูงขึ้น
สาม บริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อานิสงส์ที่ประเทศไทยเคยได้รับอาจไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะความสามารถในการพึ่งพาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ที่เคยเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาเป็นอย่างดีนั้นต่อไปคงพึ่งพาอย่างเดิมไม่ได้แล้ว
สะท้อนได้จากส่วนแบ่ง FDI ของประเทศไทยอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.57 ของโลก ในช่วงปี 2544-2548 ซึ่งสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่ล่าสุดส่วนแบ่ง FDI ของประเทศไทยลดงเหลือร้อยละ 0.63 ของโลกในปี 2565 ขณะที่อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซียมีส่วนแบ่ง FDI สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ร้อยละ 1.39, 1.01, 0.83 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการธปท.ย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรไปดึงดูด FDI เพราะการลงทุนจากต่างประเทศยังมีความสำคัญ นำไปสู่นวัตกรรมใหม่่ๆ และ ประสิทธิภาพต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น แต่จะทำแบบเดิมไม่ได้ คือสมัยก่อนเหมือนเรามีเสน่ห์ นั่งเฉยๆเขาก็วิ่งมาหา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เราต้องปรับตัว ต้องออกแรงมากขึ้น และระหว่างนี้จึงจำเป็นต้องพึ่งความเข้มแข็งจากภายในมากขึ้น
โดยต้องเน้นท้องถิ่นมากขึ้น และต้องทำให้เป็น "ท้องถิ่นที่สากล" จะช่วยให้การเติบโตของเศรษฐกิจและรายได้ดีกว่าที่ผ่านมา เพราะโตบนฐานที่กว้างขึ้น กระจายไปสู่คนหมู่มาก และมีความยืดหยุ่น เพราะท้องถิ่นแต่ละแห่งมีความแตกต่างและหลากหลาย
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ