คาด“เฟด”หั่นดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ใน 2 ปี

“ฟิทช์ เรตติ้งส์” สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไปตามมาตรฐานที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

CNBC อ้างถึงรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกประจำเดือนกันยายนของ “ฟิทช์” ที่ประเมินว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนกันยายนและธันวาคมปีนี้ ก่อนจะปรับลดรวมร้อยละ 1.25 ในปี 2568 และอีกร้อยละ 0.75 ในปี 2569 

หมายความว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมดร้อยละ 2.50 ในการประชุม 10 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 25 เดือนนับจากนี้ 

รายงานชี้ว่า เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คาดว่าเฟดจะผ่อนปรนนโยบายการเงินในอัตราที่ไม่สูงนัก เนื่องจากเฟดยังต้องจัดการกับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 2

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เพิ่งเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับร้อยละ 2.9 ในเดือนกรกฎาคม และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564

ฟิทช์ ระบุด้วยว่า ความท้าทายด้านเงินเฟ้อที่เฟดเผชิญในช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะทำให้สมาชิกระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากการควบคุมเงินเฟ้อใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้มาก

ขณะเดียวกัน ฟิทช์ประเมินว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (medium-term lending facility-MLF) ระยะ 1 ปี เหลือร้อยละ 2.3 จากร้อยละ 2.5 โดยคาดว่าจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.1 ในปีนี้ และร้อยละ 0.2 ในปี 2568

ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นจะดำเนินการสวนทางกับธนาคารกลางอื่น ๆ โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมร้อยละ 0.5 ในปีนี้ หลังปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม และปรับขึ้นอีกร้อยละ 0.75 ในปี 2568