ค่ายรถยุโรปจ่อถูกปรับสูงสุด 15,000 ล้านยูโร l การตลาดเงินล้าน
ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป หวั่นถูกปรับสูงสุดถึง 15,000 ล้านยูโร พลาดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2025
ลูก้า เดอ มีโอ ซีอีโอ ของเรย์โนลต์ (Renault) ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (European Automobile Manufacturers Association - ACEA) กล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์อาจต้องจ่ายค่าปรับประมาณ 15,000 ล้านยูโร หากพลาดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2025 จากการผลิตและขายรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพตามคำแนะนำของสหภาพยุโรป แม้ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคจะยังคงเพิ่มขึ้นในยุโรปก็ตาม
สื่ออิเล็คเทรก ระบุว่า ประเด็นปัญหาก็คือเป้าหมายคาร์บอนไดออกไซด์ของยุโรปในปี 2025 และค่าปรับที่คำนวณจากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยของยานพาหนะต่อผู้ผลิตรถยนต์
ภายในปี 2025 ผู้ผลิตรถยนต์ควรจะขายรถยนต์ที่มีการปล่อยมลพิษเฉลี่ย 93.6 กรัมต่อกิโลเมตรหรือต่ำกว่า หากผู้ผลิตรถยนต์ไม่บรรลุเป้าหมายทางกฎหมายซึ่งกำหนดขึ้นในปี 2018 ก็อาจจะต้องจ่ายค่าปรับ 95 ยูโรต่อกรัมของคาร์บอนไดออกไซด์ต่อรถยนต์
ซึ่งค่าปรับที่อาจจะเกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตรถยนต์ โดยผู้ผลิตรถยนต์บางรายใกล้บรรลุเป้าหมายและบางรายยังอยู่ห่างไกล ผู้ผลิตรถยนต์ที่บรรลุเป้าหมายแล้ว ได้แก่ Tesla และ Volvo ส่วนบางค่ายก็ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว เนื่องจากมียอดขาย EV หรือรถยนต์แบบไฮบริดสูง เช่น Kia, Hyundai และ Stellatis บริษัทเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกปรับ 200 - 300 ยูโรต่อคัน หากปริมาณการปล่อยก๊าซของยานพาหนะยังคงอยู่ที่ระดับเดียวกับในปี 2023
แต่ที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดคือฟอร์ดและโฟล์คสวาเกน ซึ่งยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลกว่าที่จะบรรลุเป้าหมายในปี 2025 บริษัทเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกปรับมากกว่า 2,000 ยูโรต่อคัน เมื่อพิจารณาจากระดับการไม่ตรงต่อข้อกำหนดในปัจจุบัน
เดอ มีโอ ประธานสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป กล่าวกับคลื่นวิทยุ Inter ในฝรั่งเศสว่าค่าปรับอาจสูงถึง 15,000 ล้านยูโร หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน มิเช่นนั้นผู้ผลิตรถยนต์จะต้องยกเลิกการผลิตรถยนต์ปล่อยมลพิษ 2.5 ล้านคัน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด
อย่างไรก็ตาม เดอ มีโอ ยังได้ร้องขอความยืดหยุ่นจากสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่าการกำหนดเส้นตายและค่าปรับโดยไม่สามารถทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้ เป็นสิ่งที่อันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเป้าหมายเหล่านี้ตั้งขึ้นในปี 2017
และเดอ มีโอก็ไม่ใช่ผู้นำค่ายรถยนต์เพียงคนเดียวที่เรียกร้องให้มีความยืดหยุ่นกับเป้าหมายที่รู้ล่วงหน้าประมาณ 8 ปี เพราะโอลิเวอร์ ซิปซี่ ซีอีโอของ BMW ก็เรียกร้องให้มีการทบทวนเป้าหมายด้วย
แต่สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป กล่าวว่าเป้าหมายปี 2025 สมควรที่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในเรื่องนี้ จะไม่ได้ทำให้มีเวลาเพียงพอในการปรับตัวด้านการพัฒนายานยนต์และวงจรการผลิต
และจากข้อมูลของการขนส่งและสิ่งแวดล้อมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายเหล่านี้ยังคงสามารถเอื้อมถึงได้ เพียงแต่ผู้ผลิตรถยนต์ยังใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
อิเล็คเทรก ระบุด้วยว่า ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์ต่างร้องเรียนเป็นเสียงเดียวกันว่าเป้าหมายใหม่เอื้อมถึงได้ยาก ทำให้เสี่ยงต่อการถูกปรับ และขอผ่อนผัน แทนที่จะทุ่มเททำสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุผล
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เมื่อถึงเวลาที่กฎระเบียบต่าง ๆ มีผลบังคับใช้ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในยานพาหนะของบริษัทเหล่านี้กลับลดลงอย่างรวดเร็ว
ข่าวแนะนำ