ธ.ก.ส.ลุยขายคาร์บอนเครดิต 5 แสนตัน | ย่อโลกเศรษฐกิจ

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีเครือข่ายธนาคารต้นไม้กว่า 6,814 ชุมชน มีต้นไม้ขึ้นทะเบียนกว่า 12 ล้าน 4 แสนต้น มีสมาชิก 124,071 คน มูลค่าต้นไม้ในโครงการกว่า 43,000 ล้านบาท 

สำหรับจังหวัด ชุมพร ถือเป็นธนาคารต้นไม้แห่งแรกของจังหวัด จากเดิมปี 2566 เริ่มยกระดับมาวัดผลตามมาตรฐาน เพื่อผลิต BAAC Carbon credit

โดยเบื้องต้น ได้ทำเร็จแห่งแรกที่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล็อตแรกผลิตได้ 401 ตัน ธกส. ก็ซื้อกลับเข้ามาทั้งหมด ในโครงการ BAAC Carbon credit ราคาตันละ 3,000 บาท จำนวน 1 ล้าน 2 แสนบาท เพื่อให้เกษตรกรดูแลต้นไม้ และให้เห็นว่าสามารถเปลี่ยนอากาศเป็นเงินได้

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าขยายสัดส่วน BAAC Carbon credit ทุกปี โดยภายใน 5 ปี ต้องได้ 510,000 ตันคาร์บอนเครดิต ได้แก่ ปี 2567 จำนวน 2,580 ตัน คาร์บอน ปี 2568 จำนวน 43,700 ตันคาร์บอน ปี 2569 จำนวน 68,801 ตันคาร์บอน ปี 2570 จำนวน 188,100 ตันคาร์บอน และปี 2571 จำนวน 207,100 ตันคาร์บอน 

นอกจากนี้ ยังพร้อมส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น การเพาะกล้าไม้เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ การทำนาเปียกสลับแห้งเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทน การลดการเผาตอซังข้าว อ้อยและข้าวโพดเพื่อลด PM 2.5 การเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าชายเลน การนำผลิตผลจากต้นไม้มาสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม 

เช่น การนำวัตถุดิบจากไม้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตน้ำส้มควันไม้ ปลูกสมุนไพร และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นต้น 

ซึ่งทั้งหมดเป็นการต่อยอดการดำเนินงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2065

ที่มา TNN