กนง.คงดอกเบี้ย-จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง | ย่อโลกเศรษฐกิจ
กนง. เสียงแตก 6 ต่อ 1 มติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี พร้อมจับตาปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น อาจกดดันเศรษฐกิจโตต่ำกว่าคาด
ดร.ปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. วันนี้ (21 ส.ค. 67) ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี เนื่องจากกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่กรรมการ 1 ท่าน เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจและภาวะการเงินที่มีความเชื่อมโยงกัน โดยจะพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า
เลขานุการ กนง. ระบุว่า จากข้อมูลเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประกาศโดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส2 มีแนวโน้มเติบโตตามที่ กนง.ประเมินไว้ และช่วงครึ่งหลังแรงส่งเศรษฐกิจจะแผ่วลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเฉลี่ยเมื่อเทียบรายไตรมาส (QoQ)จะอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ในครึ่งปีหลังชะลอลงจากร้อยละ 1.2 ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ภาพโดยรวมยังคงประมาณการเศรษฐกิจทั้งปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 2.6
อย่างไรก็ดี มี 3 ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาดูใกล้ชิดเพราะอาจทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1.การลงทุนภาคเอกชน ซึ่งในไตรมาส 2 หดตัวร้อยละ 6.8 แรงกว่าที่กนง. ประเมินไว้ จึงต้องติดตามดูว่าจะเป็นการหดตัวชั่วคราวหรือปัจจัยมากกว่านั้้น
2. การลงทุนภาครัฐ ซึ่งในไตรมาส 2 คาดว่าขยายตัวเป็นบวก แต่กลับติดลบร้อยละ 4.3 จึงต้องติดตามดูในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะสามารถเบิกจ่ายลงทุนได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ และ 3. จับตาดูคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงจะกระทบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
ที่มา TNN