คลังชูกุญแจ 3 ดอก ดันไทยศูนย์กลางการเงินระดับโลก
คลัง เผยกุญแจ 3 ดอก พาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก พร้อมจับมือธปท. เดินหน้าธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา เพิ่มการเข้าถึงทางการเงินของประชาชน และผู้ประกอบการ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ "Ignite Finance" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของวิสัยทัศน์ "Ignite Thailand" ว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเงินโลกหรือ Thailand Financial Center จะต้องดำเนินการผ่าน 3 กุญแจสำคัญ คือ
1.กฎหมายที่พร้อมรับอนาคต การยกร่างกฎหมายที่มีความยืดหยุ่น โปร่งใส และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ภโดยภาครัฐจะผลักดัน ร่างกฎหมายที่จะสร้างกรอบการกำกับดูแลแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การขอใบอนุญาตจนถึงการกำกับ ดูแลมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งเพื่อให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว และตอบโจทย์ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อขยายขอบเขต และบทบาทของภาคการเงินของประเทศไทยในเวทีโลก สำหรับ 5 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจหลักทรัพย์ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจประกันภัย
2.สิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ Ignite Finance จะสร้างให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกแรกที่สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการทางการเงินเลือกที่จะมาตั้งสาขาและประกอบธุรกิจ
รวมถึงการจัดตั้งบริษัทและการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การให้วีซ่าทำงานแก่บุคลากรและวีซ่าที่เกี่ยวข้องของครอบครัว การจัดเก็บภาษีที่เทียบเท่ากับศูนย์กลางการเงินอื่น
3.ระบบนิเวศน์แห่งอนาคต การพัฒนากรอบกฎหมายที่เข้มแข็งและโปร่งใสที่จะเป็นพื้นฐาน ที่สำคัญในการทำธุรกิจทางการเงิน เหมือนที่ประเทศไทยได้ออกกฎหมายว่าด้วยการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets)
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อให้มีการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank)
รวมทั้งการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (National Credit Guarantee Agency: NaCGA) ที่จะเป็นนวัตกรรมใหม่ในการค้ำประกันความเสี่ยงสินเชื่อ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงทางการเงินของประชาชนและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม