“พายุดีเปรสชัน” กระทบไทย จ่อระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยารับมือ
กรมชลฯ เตรียมเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา รับมือ "พายุดีเปรสชัน" คาด ระดับน้ำเพิ่มสูง 60 - 100 เซนติเมตร
วันนี้ (18 ก.ย. 67) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย จากร่องมรสุม และพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ คาดว่าจะทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน ขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนตกหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 20 - 23 ก.ย. 67
ในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทางตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีกระลอก กรมชลประทาน ได้ใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออกที่อยู่ทางตอนบนของเขื่อนเจ้าพระยา รับน้ำเข้าไปตามศักยภาพของคลอง รวมทั้งควบคุมการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำท่าและฝนที่ตกทางตอนบน ด้วยการปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได ในอัตราไม่เกิน 1,500 ลบ.ม./วินาที
ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60 - 100 เซนติเมตร
ดังนั้น ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำ จากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ข้อมูลจาก: กรมชลประทาน
ภาพจาก: กรมชลประทาน
ข่าวแนะนำ