ไต้ฝุ่น "เบบินคา" ถล่มจีนหนัก ยังไม่ทันพัก "ปูลาซัน" จ่อมาอีกลูก

ไต้ฝุ่น “เบบินคา” ขึ้นฝั่งที่นครเซี่ยงไฮ้ ของจีนแล้วเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 7.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุด 151 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ไต้ฝุ่น “เบบินคา” เมื่อพัดขึ้นฝั่งแล้ว แทบจะไม่ลดระดับลง ยังมีระดับเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ที่มีความเร็วลมตั้งแต่120 -140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ทำให้ไต้ฝุ่นเบบินคา เป็นพายุรุนแรงที่สุดที่ขึ้นฝั่งเซี่ยงไฮ้โดยตรงในรอบ 75 ปี หรือตั้งแต่ปี  2492 หลังจากเซี่ยงไฮ้เคยถูกไต้ฝุ่น “กลอเรีย” พัดถล่มไปเมื่อปี  2492 และโดยปกติแล้วพายุจะไม่พัดขึ้นฝั่งโดยตรงที่เซี่ยงไฮ้ แต่ส่วนใหญ่จุดที่พายุพัดขึ้นฝั่งมักอยู่ลงไปทางใต้  

ไต้ฝุ่น “เบบินคา” ซึ่งเป็นชื่อขนมในมาเก๊า เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 13 ของปีนี้ มีรายงานฝนตกประมาณ 50 มิลลิเมตรภายในเวลาครึ่งชั่วโมงในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อที่มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 25 ล้านคน   

สำนักอุตุนิยมวิทยาเซี่ยงไฮ้ คาดการณ์ว่าไต้ฝุ่น “เบบินคา” ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานมีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนจะเริ่มลดลงในวันนี้ (17 ก.ย.)  

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “เบบินคา” ทำให้เกิดความเสียหายทั่วเมือง โดยต้นไม้หักโค่นแล้วกว่า 1,800 ต้น และทำให้บ้านเรือน 30,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้  ด้านสถานีอุทกศาสตร์ใกล้แม่น้ำหวงผู่ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ รายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4 เมตร 50 เซนติเมตรแล้ว ใกล้แตะระดับความสูงของเขื่อนกั้นน้ำ 

 

 ทางการเมืองเซี่ยงไฮ้สั่งงดกิจกรรมสาธารณะกลางแจ้งทั้ง 3 วันเนื่องในเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาแล้ว 

นอกจากนี้ ตอนนี้ยังมี พายุลูกใหม่ก่อตัวขึ้น คือพายุโซนร้อน “ปูลาซัน” หมายถึงผลไม้ชนิดหนึ่งคล้ายเงาะ ตั้งชื่อโดยประเทศมาเลเซีย ขณะนี้ กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งมีทิศทางเคลื่อนไปทางประเทศจีนด้านตะวันออกอีกครั้ง และพายุลูกนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย