ญี่ปุ่น - จีนเตือนภัย “พายุไต้ฝุ่นเบบินคา” ทีมกรุ๊ปฯ ยันไม่มีผลต่อไทย

ความคืบหน้าไต้ฝุ่นเบบินคา (Bebinca)  ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 13 ของฤดูกาลนี้ ที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้หมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น และจะขึ้นฝั่งตะวันออกของจีน ในช่วงเช้าวันจันทร์ นี้ (16 ก.ย.)  ทางสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้เกิดลมพัดแรง ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมและทะเลมีคลื่นสูง คาดว่า จะทำให้มีฝนตกหนักจนถึงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และจะทำให้เกิดลมแรง ทะเลมีคลื่นแรงที่จังหวัดโอกินาว่าซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศ

ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน ได้ยกระดับเตือนภัยไต้ฝุ่นเบบินคา ซึ่งเป็นชื่อขนมของมาเก๊า จากสีฟ้าที่เป็นระดับต่ำสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ ขึ้นมาอีก 1 ระดับเป็นสีเหลือง คาดว่าอิทธิพลของพายุจะทำให้มีฝนตกหนักในมณฑลเจ้อเจียง มณฑลฝูเจี้ยน และไต้หวันไปจนถึงวันจันทร์ ที่พายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง

ด้าน นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการ บมจ.ทีมกรุ๊ป และนายกสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย ระบุว่า “พายุไต้ฝุ่นเบบินคา” ทำให้ฝนตกหนักมากที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 15 - 16 ก.ย. โดย พายุลูกนี้ได้ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ใกล้ฟิลิปปินส์ เป็นพายุลูกที่ 13 ของปีนี้ เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ ซึ่งในวันนี้ (15 ก.ย.) จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เคลื่อนที่ขึ้นฝั่งทำให้ฝนตกหนักมากที่เมืองเซี่ยงไฮ้ และ มณฑลเจ้อเจียง จากนั้น ในวันที่ 16 - 17 ก.ย. จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนที่ไปทำให้ฝนตกหนักที่เมืองหวูฮั่น และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วสลายตัวไป

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า จะมีการก่อตัวของพายุลูกที่ 14 ของปีนี้ ในทะเลทางตะวันออกของฟิลลิปินส์ เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ  โดยในวันที่ 17 ก.ย จะทำให้ฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้น ในวันที่ 19 ก.ย. จะมีฝนตกหนักที่ไต้หวัน ส่วนในวันที่ 20 - 21 ก.ย. จะมีฝนตกหนักที่มณฑลกวางตุ้ง และพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งคาดว่า ทั้งพายุลูกที่ 13 และ ลูกที่ 14 จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ภาพจาก: กรมอุตุนิยมวิทยา