TNN "ดร.สนธิ" เผยสาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือ ทำไมฝนมากผิดปกติ แม้ไม่มีพายุเข้ามา

TNN

Earth

"ดร.สนธิ" เผยสาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือ ทำไมฝนมากผิดปกติ แม้ไม่มีพายุเข้ามา

ดร.สนธิ เผยสาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือ ทำไมฝนมากผิดปกติ แม้ไม่มีพายุเข้ามา

“ดร.สนธิ” เฉลยแล้ว! ทำไมปีนี้ภาคเหนือตอนบนในช่วงนี้จึงเกิดฝนตกหนักมากกว่าปีก่อนๆ ทั้งที่ยังไม่มีพายุพัดเข้ามา?

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เกี่ยวกับ ทำไมภาคเหนือตอนบนในช่วงนี้จึงเกิดฝนตกหนักมากกว่าปีก่อนๆ ทั้งที่ยังไม่มีพายุพัดเข้ามา?


สาเหตุมาจาก 2 ประการ


1.    ภาคเหนือตอนบนในช่วงเดือนสิงหาคมกันยายน มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยในระยะนี้ยังมีกำลังค่อนข้างแรงเป็นบางช่วง ได้พัดนำความชื้นจากทะเลมาปะทะกับร่องมรสุมจึงทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องได้เกือบทุกวันและตกหนักถึงหนักมากในบางครั้ง โดยร่องมรสุม เป็นแนวของอากาศพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตกโดยมีลักษณะเป็นแนวของความกดอากาศต่ำหรืออากาศร้อนขนาดกว้างประมาณ 6 ถึง 8 องศาละติจูด ร่องมรสุมจะอยู่ในเขตร้อนใกล้ๆ เส้นศูนย์สูตรและเลื่อนขึ้น-ลงได้ตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์ โดยจะเป็นบริเวณที่มีเมฆมากเมื่ออากาศเย็นมาปะทะจะทำให้เกิดฝนตกหนักได้ เมื่อร่องนี้พัดผ่านที่พื้นที่บริเวณใดก็จะทำให้ที่นั้นฝนตกอย่างหนาแน่นได้



2.     สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ฝนที่ตกลงมาใน ปี 67 นี้ ที่ภาคเหนือตอนบน กลับมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าที่เคยตกในในปีที่ผ่านๆมา ทำ ให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมหนัก สาเหตุมาจากการที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเฉลี่ยเกือบถึง 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่สูงขึ้นทำให้น้ำในพื้นดินและแหล่งน้ำรวมทั้งมหาสมุทรถูกระเหยมากขึ้นกว่าปกติ ระเหยขึ้นไปในอากาศโดยอากาศร้อนจะอุ้มความชื้นไว้กลายเป็นเมฆฝน (ข้อมูลจากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นเฉลี่ยทุกๆ 1 องศาจะทำให้อากาศมีความชื้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 7%) หากเมฆฝนดังกล่าวลอยไปตรงแนวร่องมรสุมที่พัดผ่านพอดี ยิ่งทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเมฆฝนในบริเวณนั้นมากขึ้นไปอีก 2 ถึง 3 เท่า เมื่อมีลมตะวันตกเฉียงใต้มาปะทะจึงทำให้ฝนตกหนักหนักมากกว่าปรกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือตอนบนในช่วงนี้ จึงทำให้ฝนตกในปริมาณมากกว่าปีก่อน ทั้งที่ยังไม่มีพายุพัดเข้ามา ตั้งแต่นี้ต่อไปบริเวณใดที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพัดผ่านอาจจะมีฝนตกหนักมากขึ้นกว่าปกติ


ภาวะโลกร้อนทำให้ความชื้นในอากาศเพิ่มมากขึ้นกว่าปรกติ หากมวลความชื้นดังกล่าวลอยไปรวมกับอากาศร้อนในร่องมรสุมความกดอากาศต่ำที่พัดผ่านบริเวณใดพื้นที่นั้นจะเกิดฝนจะตกมากกว่าปรกติเพิ่มเป็น 2 เท่าของที่เคยเกิดขึ้น ภาวะโลกร้อนกำลังจะเปลี่ยนเป็นภาวะโลกรวนแล้ว


ที่มา: เฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat




ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง