สนทช. เตือนฝนตกต่อเนื่องเสี่ยงดินถล่มซ้ำ - เตรียมรับมือ “พายุไซโคลน”
สนทช. เตือนเหนือและอีสานฝนตกต่อเนื่อง เสี่ยงดินโคลนถล่มซ้ำ เตรียมรับมืออิทธิพล “พายุไซโคลน” ถล่มภาคใต้, ตะวันออก
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ โดยสถานการณ์น้ำในช่วงสัปดาห์นี้ เกิดร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกชุกในพื้นที่ภาคเหนือหลายพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และหากฝนยังคงตกกินเวลานานออกไปอาจจะเกิดเหตุดินโคลนถล่มได้ จึงได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงด้วย
ขณะที่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนกันยายน คาดการณ์ว่า จะเกิดพายุไซโคลนในมหาสมุทรอินเดีย ส่งผลให้ลมมรสุมที่จะเข้าประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักเป็นบางแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกบริเวณ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด และพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกบริเวณ จังหวัด ภูเก็ต ตรัง กระบี่ จึงได้ขอให้หน่วยงานเตรียมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ส่วนอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงที่มีปริมาณน้ำในอ่างมากอยู่แล้ว ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่าง และวางแผนการระบายน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ และบึงกาฬ นอกจากนี้ สทนช. ได้แจ้งเตือนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบริเวณชุมชนริมน้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบด้วยพื้นที่ จังหวัดน่าน แพร่ สุโขทัย
ทั้งนี้ บึงบอระเพ็ดเป็นพื้นที่ สำหรับตัดยอดน้ำที่จะลงมาเหนือเขื่อนเจ้าพระยา และได้วางแผนควบคุมน้ำเพื่อลดพื้นที่รับผลกระทบ โดยแบ่งการระบายน้ำผ่านระบบชลประทานของพื้นที่เจ้าพระยาอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร และกรณีหากเกิดพายุจรเข้ามาก็ขอให้ทุกหน่วยงานวางแผนบริหารจัดการโดยการเก็บกัก หน่วงน้ำ และระบายออกให้เร็วที่สุด เพื่อเกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงที่จะเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้มากที่สุดด้วย
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ติดตามการรายงานปริมาณฝน และมีห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ จึงได้มีข้อสั่งการขอให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบริหารจัดการเพื่อเร่งระบายน้ำ รวมทั้ง ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลเรื่องถุงยังชีพเพื่อส่งให้ประชาชนที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นอกจากนี้ยังขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ยังควบคุมไม่ได้ และขอให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ปภ. จังหวัด รวมทั้งขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า หลีกเลี่ยงการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงภัย
ภาพจาก: AFP