TNN เปิดภาพ "อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ" ภาพดาวเทียมเผยเสียหาย 12,800 ไร่

TNN

Earth

เปิดภาพ "อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ" ภาพดาวเทียมเผยเสียหาย 12,800 ไร่

เปิดภาพ อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ภาพดาวเทียมเผยเสียหาย 12,800 ไร่

GISTDA เผยภาพถ่ายจากดาวเทียม Cosmo SkyMed-2 บริเวณ "อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ" อ.บรบือ จ.มหาสารคาม พบพื้นที่เสียหายกว่า 12,800 ไร่

GISTDA เผยข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียม Cosmo SkyMed-2 บริเวณ “อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ” อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ของวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 17.50 น. จากภาพจะแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำแตก โดยพบพื้นที่เสียหายรวมกว่า 12,800 ไร่


สภาพ “อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ” อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ที่เกือบแห่งขอด หลังจากคันกั้นน้ำขาดตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำทั้งหมดที่อยู่ในอ่างฯ กว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักลงไปพื้นที่ด้านล่าง  โดยมวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยของประชาชนเป็นบริเวณกว้าง คาดว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 3,000 ถึง 10,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล คือ ตำบลกำพี้ ตำบลหนองม่วง ตำบลดอนงัว และตำบลยาง อำเภอบรบือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำไหลผ่าน  จากนั้นมวลน้ำก้อนนี้จะไปลงสู่ลำน้ำเสียวใหญ่ และจุดต่อไปที่จะเป็นพื้นที่รับน้ำ คืออำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม และ อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำมูลต่อไป


ด้านชลประทาน ได้นำเครื่องจักรเข้าพื้นที่เพื่อเร่งซ่อมแซมจุดที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำขาด ยาวประมาณ 50 เมตร โดยได้ทำตาข่ายบรรจุหิน หรือ กล่องเกเบี้ยน เตรียมนำไปวางในจุดที่ขาด พร้อมกับนำเครื่องจักรเข้าไปกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อระบายมวลน้ำให้เร็วขึ้น คาดว่าภายใน 5 วัน จะสามารถระบายมวลน้ำก้อนนี้ได้ทั้งหมด และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ


ด้าน นาย สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บอกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ สทนช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน  


โดยขณะนี้ปริมาณน้ำที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่การเกษตร ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้มวลน้ำจะไหลเข้าสู่ลำเสียวใหญ่และไหลลงไปยังแม่น้ำมูล แต่จะไม่ล้นตลิ่ง ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่มวลน้ำไหลผ่าน พร้อมสั่งการให้กรมชลประทานเร่งซ่อมแซมคันกั้นอ่างเก็บน้ำที่ขาด ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และปรับปรุงให้สามารถเก็บน้ำในช่วงปลายเดือนสิงหาคม  ไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อย่างพอเพียง ส่วนการชดเชยความเสียหาย ปัจจุบันจังหวัดมหาสารคามและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจ 


เลขาธิการ สทนช. บอกอีกว่า จากประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา เลย ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชลบุรี และเพชรบุรี  เหลือเพียงอีก 2 จังหวัด คือ จังหวัดมหาสารคาม  ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ทำนบดินขาด  และจังหวัดขอนแก่น ที่ประสบปัญหาฝนตกหนัก ทำให้น้ำหลากเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่การเกษตร  


ภาพ/ที่มา: GISTDA



ข่าวแนะนำ