หากโลกร้อนขึ้น 0.5 องศาฯส่อหายนะ ทะเลจมกทม.-ชายฝั่ง ปลาอาจหายหมด

วันนี้ (26 พ.ค. 66)ศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับโลกร้อน โดยระบุว่า 

“8 ปีก่อนเราเคยตกลงกันว่า โลกจะไม่ร้อนเกิน 1.5 องศา เมื่อ 2 ปีที่แล้วเราบอกว่าไม่ไหวจ้ะ ขอ 2 องศาจะได้ไหม ” 

นี่คือข้อมูลจาก UN แสดงให้เห็นว่า 0.5 องศาที่ต่างกัน มันหมายถึงอะไรในอีก 77 ปี

- น้ำแข็งละลาย น้ำทะเลขึ้นสูงเพิ่มอีก 1 เมตร (เมื่อเทียบกับ 1.5 องศา) ท่วมแหลกทั้งกรุงเทพและที่ราบลุ่มชายฝั่งแห่งต่างๆ

- ปะการังตายเพราะฟอกขาว 99% แทนที่จะเป็น 70% ทะเลเลิกสวย กุ้งหอยปูปลาหายหมด

- ฤดูร้อนไร้น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก (ขั้วโลกเหนือ) จะเกิดทุก 10 ปี แทนที่จะเป็นทุก 100 ปี

**บ๋ายบายหมีขาว*

และอื่นๆ อีกมากที่ใช้คำว่าสาหัสได้เต็มปากเต็มคำ แต่ผมเลือกมาเฉพาะทะเลเพราะฉะนั้น 0.5 องศามีความหมายมากๆ ทว่า ณ ตอนนี้ อย่าว่าแต่ 2 องศาเลยครับ มาตรการต่างๆ ของโลกในยุคปัจจุบัน เรายังทำได้แค่ 2.3 องศา แถมยังเป็นแค่การประเมิน ซึ่งจากบทเรียนในอดีต เรามักประเมินผิด น้อยเกินไปแทบทุกครั้ง เราต้องช่วยกันเต็มที่ นั่นเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็บอกได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องเร่งทำตอนนี้คือการรับมือและปรับตัว เช่น

เมื่อชายฝั่งจมน้ำ เราจะทำอย่างไร มีที่ไหนเสี่ยงสูงสุด เราจะแก้อย่างไร รักษาป่าเลนหญ้าทะเลเพิ่มดินตะกอนจะสู้ไหวไหม จะทำอย่างไรถ้าปะการัง หญ้าทะเล ฯลฯ ของเมืองไทยตายไปเรื่อยๆ (ตอนนี้ก็ตายอยู่ แทบไม่อยากอ่านรายงานฟอกขาว )

ชาวประมง กิจการท่องเที่ยว จะอยู่กันได้อย่างไร ความมั่นคงทางอาหารจะเป็นไง รายได้มหาศาลจะหมดไปไหม ฯลฯ

เพราะเราไม่ได้อยู่ในโลกอดีตอีกแล้ว เรากำลังอยู่ในโลกที่โหดกว่าในปัจจุบัน ทและจะยิ่งกว่านั้นในอนาคต…

ข้อมูลจาก  : Thon Thamrongnawasawat

ภาพจาก :  AFP