TNN online พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ทั่วไทยเจอลมหนาวมาพร้อม “ฝนตก”

TNN ONLINE

Earth

พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ทั่วไทยเจอลมหนาวมาพร้อม “ฝนตก”

พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ทั่วไทยเจอลมหนาวมาพร้อม “ฝนตก”

พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ อิทธิพลกระแสลมฝ่ายตะวันตก ทำทั่วไทยเจอ “ฝนตก” ก่อนหนาวอุณหภูมิจะลดลง มรสุมภาคใต้อ่อนกำลังลง

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศล่วงหน้า และ พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้  ในช่วงวันที่ 11-15 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีลมตะวันออกเฉีงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก 

ขณะที่ พยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 11 -12 ม.ค. 66 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรกหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 

พยากรณ์อากาศภาคใต้ล่วงหน้า 7 วัน มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง 

บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในวันที่ 16-17 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงฝนฟ้าคะนองบริเวณประเทศไทยตอนบนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 11-12 ม.ค. 66 สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ในช่วงวันที่ 16 – 17 ม.ค.

พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ และ 7 วันข้างหน้า รายภาค  ระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-12 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว  โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่าง ในช่วงวันที่ 11-12 ม.ค. 66  อุณหภูมิต่ำสุด 13-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 -4 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10 -25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1- 2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 11-13 ม.ค. 66 อุณหภูมิต่ำสุด 18 -21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 -29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 15 - 17 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 -17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 21-26 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 -14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 11-15 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า  โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 11-13 ม.ค. 66 อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 16 -17 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 -30 กม./ชม.

พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ทั่วไทยเจอลมหนาวมาพร้อม “ฝนตก”

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11-15 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า  โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 11-12 ม.ค. 66 อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 16 - 17 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 -31 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 12 – 15 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 16 – 17 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค 
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 11 – 13 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 17 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 11 – 15 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า  โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 11 – 12 ม.ค. 66 อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.


ข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา 

ภาพจาก  : AFP 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง