โลกร้อนทำไฟป่าแรง กระทบ “โมอาย” รูปปั้นหินมรดกโลก

ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศส่งผลกระทบทำให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม พายุ รวมถึงไฟป่า 

ล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไฟป่าบนเกาะอีสเตอร์ของประเทศชิลี สร้างความเสียหายแก่รูปปั้นโมอาย (Moai) รูปปั้นหินแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่บนเกาะ จนไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาให้เหมือนเดิมได้อีกแล้ว สำหรับปีนี้ ชิลีเผชิญกับปัญหาไฟป่ามาอย่างต่อเนื่อง

โดยไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่บนเกาะอีสเตอร์เกือบ 700 ไร่ สำหรับเกาะอีสเตอร์ หรือ เกาะราปานุย มีรูปปั้นหินโมอายมากกว่า 1,000 ชิ้น รูปปั้นหินโมอายนี้ เป็นรูปคล้ายกับหัวมนุษย์ขนาดใหญ่ ที่เชื่อกันว่าแกะสลักไว้ในศตวรรษที่ 13 ไฟป่าในเดือนตุลาคมนี้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่รอบภูเขาไฟราโนรารากุ ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

และคาดว่ามีโมอายจำนวนนับร้อยอยู่ในบริเวณนั้น

จากข้อมูลของสหประชาชาติพบว่า หลายภูมิภาคทั่วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เกิดความแห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ไฟป่ามีความรุนแรงยิ่งขึ้น 

จากข้อมูลของ UNEP หรือโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ พบว่า ภายในปีค.ศ. 2030 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า ไฟป่าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 14% และเพิ่มมากกว่า 30% ภายในปี 2050 หรืออีก 28 ปีข้างหน้า และจะสูงกว่า 50% เมื่อสิ้นศตวรรษหรือภายในปีค.ศ. 2100 ประชากรทั่วโลกอาจมีปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจและหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้มลพิษจากไฟป่ายังทำให้เกิดมลพิษขึ้นในแม่น้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิตประชาชน

ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจึงเตือนให้ประเทศต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือกับไฟป่า และพยายามหาทางลดความเสี่ยงที่จะทำให้ไฟป่ามีความรุนแรงยิ่งขึ้น ผ่านความพยายามในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั่นเอง