TNN online เตือนรับมือ "พายุ 3 ลูก" จะเข้าไทยจริงหรือ กรมอุตุฯแจงแล้ว?

TNN ONLINE

Earth

เตือนรับมือ "พายุ 3 ลูก" จะเข้าไทยจริงหรือ กรมอุตุฯแจงแล้ว?

เตือนรับมือ พายุ 3 ลูก จะเข้าไทยจริงหรือ กรมอุตุฯแจงแล้ว?

สภาพอากาศ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวเตรียมรับมือ "พายุ 3 ลูก" ช่วงตุลาคมจริงหรือ ล่าสุดอุตุฯชี้แจงแล้ว?

สภาพอากาศ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวเตรียมรับมือ "พายุ 3 ลูก" ช่วงตุลาคมจริงหรือ ล่าสุดอุตุฯชี้แจงแล้ว?


ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องพายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ พายุดีเปรสชัน จะเข้าประเทศไทยเดือน ต.ค. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ


จากกรณีที่มีผู้โพสต์ระบุว่าพายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ พายุดีเปรสชัน จะเข้าประเทศไทยเดือน ต.ค. ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าเป็นข่าวลือที่วนซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ ของปี 2564 


โดยพยากรณ์อากาศ วันที่ 12 – 13 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนก และขอให้ติดตามการรายงานสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา หรือโทรสายด่วน 1182


บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นข่าวลือที่วนซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ ของปี 2564 โดยสภาพอากาศในวันที่ 12 – 13 ต.ค. 65 อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง





ที่มา ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

ภาพจาก AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง