TNN online "พายุลูกใหม่" อาจเกิดขึ้นได้ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65 กระทบภาคไหนเช็กเลย!

TNN ONLINE

Earth

"พายุลูกใหม่" อาจเกิดขึ้นได้ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65 กระทบภาคไหนเช็กเลย!

พายุลูกใหม่ อาจเกิดขึ้นได้ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65 กระทบภาคไหนเช็กเลย!

พล.อ.อนุพงษ์ สั่งเฝ้าระวัง "พายุหมุนเขตร้อน" ที่คาดจะเกิดขึ้นได้ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65 กระทบภาคไหนเช็กเลย!

พล.อ.อนุพงษ์ สั่งเฝ้าระวัง "พายุหมุนเขตร้อน" ที่คาดจะเกิดขึ้นได้ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65 กระทบภาคไหนเช็กเลย!


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 65 ประเทศไทยยังคงต้องเฝ้าติดตาม "พายุหมุนเขตร้อน"  ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ โดยอาจจะมีผลกระทบภาคใต้ตอนบนถึงภาคใต้ตอนกลาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องประสานข้อมูลการดำเนินการ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมการเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด


ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการประชุมติดตามการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือ ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ผ่านระบบ VCS ณ ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 กระทรวงมหาดไทย


ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำและการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือของจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี จ.เชียงใหม่ จ.เพชรบูรณ์ และกรุงเทพมหานคร


พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มาให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ทุกคน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยได้มีการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่ได้วางแผนไว้อย่างเป็นขั้นตอน ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดปัญหาต่อประชาชนโดยรวม และในวันนี้จึงได้มารับฟังและรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาของพื้นที่ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะดูแลด้านงบประมาณ ด้านการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป


พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคาดการณ์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น พร้อมบูรณาการและเตรียมแผนการดำเนินงานและแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถวางแผนในการดูแลประชาชนได้ อาทิ การพร่องน้ำ การระบายน้ำ การเก็บกักน้ำ การจูงน้ำในพื้นที่ไว้ล่วงหน้า สิ่งสำคัญที่สุด คือ การระบายน้ำ ทั้งในพื้นที่ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกให้เกิดความสมดุล ตั้งแต่ภาคเหนือลงมายังภาคกลาง เพื่อไม่ให้เกิดการล้นตลิ่งหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งในอนาคตจะต้องดำเนินการขุดลอกคลองหรือการสร้างประตูน้ำเพิ่มเติม เพื่อลดความเดือดร้อนที่จะเกิดกับประชาชนให้น้อยที่สุด และขอเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ทำนบกั้นน้ำ ซึ่งขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แต่ก็ต้องมีการเตรียมการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา สำหรับพื้นที่ กทม ก็มีความห่วงใยพื้นที่ประสบปัญหา จึงขอให้ กทม ต้องวางแผนในการบริหารจัดการเพราะต้องรับน้ำจากด้านเหนือทั้งพื้นที่ในคันกั้นน้ำ และพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย


สำหรับนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ได้แก่ 

1) การพยากรณ์ โดยขอให้มีการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนต่าง ๆ ทุกกลุ่มได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเร็วที่สุด 

2) ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ ทุกกระทรวง/หน่วยงาน เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกล สำหรับช่วยเหลือประชาชนตามแผนงานและแผนเผชิญเหตุ รวมถึงการกำจัดวัชพืช การจัดการขยะตามเส้นทางน้ำ การพร่องน้ำ การระบายน้ำ การเปิดทางน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัย 

3) หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการก่อสร้างถนนและเส้นทางต่าง ๆ ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขปัญหาโครงการที่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในช่วงฝนตกหนัก และในอนาคตการสร้างถนนจะต้องไม่ขวางทางน้ำ และมีท่อสำหรับการระบายน้ำด้วย 

4) การติดตั้งสัญญาณไฟจราจร ป้ายบอกทางในพื้นที่อุทกภัยให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดอุบัติเหตุในเส้นทาง 

5) เมื่อสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ฯ ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน


ในกรณีเกิดน้ำท่วมขังขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือ ทั้งภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ประชาชนจิตอาสา ระดมสรรพกำลังทั้งกำลังคน และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย รวมทั้งเตรียมความพร้อมของศูนย์อพยพ หรือ ศูนย์พักพิงให้มีอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านน้ำ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นส่วนสำคัญในระดับพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ต้องเร่งสร้างให้การรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน เพื่อให้ไม่เกิดการตื่นตระหนก รวมถึงสามารถเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ จากหน่วยงานรัฐได้






ภาพจาก AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง