TNN online วิกฤตคลื่นความร้อนในจีน ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

TNN ONLINE

Earth

วิกฤตคลื่นความร้อนในจีน ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

วิกฤตคลื่นความร้อนในจีน ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

“ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศเห็นตรงกันว่า วิกฤตคลื่นความร้อนและภัยแล้งรุนแรงในจีนเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ที่ทำให้คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น ยาวนาน และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม”

ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศส่งผลทำให้ปีนี้ ภัยแล้งและคลื่นความร้อนรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จีน ปีนี้เผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปีอุณหภูมิพุ่งทะลุ 40 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ สื่อจีนรายงานว่า เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของจีน ตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ ส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม รวมถึงระบบการขนส่งทั่วประเทศ ลุ่มน้ำแยงซีซึ่งทอดยาวจากชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ไปยังมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนลดระดับต่ำลงมาก นอกจากนี้ทะเลสาบโผหยาง แหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยปกติมีพื้นที่ประมาณ 3,500 ตารางกิโลเมตร แต่ภัยแล้งทำให้พื้นที่ทะเลสาบหดตัวลงเหลือเพียง 1ใน 5 เท่านั้น คาดการณ์ว่า ระดับน้ำในทะเลสาบโผหยางจะลดลงอีก เพราะคลื่นความร้อนและสภาพอากาศแห้งแล้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศระบุว่า คลื่นความร้อนที่จีนครั้งนี้อาจเป็นหนึ่งในคลื่นความร้อนที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศเห็นตรงกันว่า วิกฤตคลื่นความร้อนและภัยแล้งรุนแรงในจีนเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ที่ทำให้คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น ยาวนาน และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม เพราะการที่โลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น ก็จะไปกักพลังงานความร้อนไว้ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น และดันให้อุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งผลกระทบของภาวะโลกร้อนอาจแตกต่างกันไปตามละติจูดด้วย คือ บริเวณขั้วโลก อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกถึง 3 เท่า ซึ่งหมายความว่า ในพื้นที่ที่อากาศยิ่งหนาวเท่าไร อุณหภูมิยิ่งสูงขึ้นเร็วกว่าในพื้นที่ที่อุ่นกว่า ดังนั้นถ้ามนุษย์ยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอย่างต่อเนื่อง คลื่นความร้อนก็มีแนวโน้มจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ดังนั้น ทางที่จะควบคุมไม่ให้คลื่นความร้อนรุนแรงไปกว่านี้ เราต้องช่วยกันควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด

ข่าวแนะนำ