โลกร้อนทำพายุแรงขึ้น ถล่มแอฟริกาไม่หยุดตั้งแต่ต้นปี

ฤดูพายุในมหาสมุทรอินเดียใต้นั้นจะอยู่ระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนเมษายน โดยเดือนที่เกิดพายุก่อตัวบ่อยที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงฤดูพายุที่ผ่านมานั้น เกิดพายุพัดถล่มพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาติดต่อกันถึง 5 ลูก จากการรวบรวมข้อมูลของ NOAA พบว่านับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมมาจนถึงสิ้นเดือนเมษายน พื้นที่ของมาดากัสการ์และประเทศทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาเกิดน้ำท่วมและได้รับผลกระทบจากพายุรุนแรงติดต่อกันหลายลูก โดยพายุลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นในปีนี้คือ พายุโซนร้อนอานา ลูกนี้ได้พัดถล่มทั้งมาดากัสการ์และโมซัมบิกเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม มีประชาชนเสียชีวิตไปประมาณ 115 ราย ลูกที่2 คือไซโคลนบัตซีราย ลูกนี้พัดถล่มมาดากัสการ์ตอนใต้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์และทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไป 123 ราย ตามมาติดๆด้วยลูกที่3 คือโซนร้อนดูมาโกในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พัดถล่มตอนเหนือมาดากัสการ์ ทำให้ประชาชนต้องอพยพกว่าสี่พันคน ส่วนลูกที่ 4 ไซโคลนเอ็มนาตีได้พัดถล่มมาทางตอนใต้ดากัสการ์ในช่วงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และลูกที่ 5 ไซโคลนกอมเบ ลูกนี้ส่งผลกระทบทั้งมาดากัสการ์และโมซัมบิกช่วงกลางเดือนมีนาคมทำให้ประชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 45,000 คน นับตั้งแต่ต้นปีมานั้น ทั้งมาดากัสการ์ มาลาวี โมซัมบิก แอฟริกาใต้ รวมถึงประเทศใกล้เคียงถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากพายุที่ก่อตัวขึ้นบริเวณนี้จนแทบจะไม่มีเวลาพักฟื้นเพราะพายุก่อตัวถี่ขึ้น และมีผู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรงมากกว่าล้านคนทีเดียว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พายุก่อตัวบ่อยขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้นนั้นก็มาจากภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน