TNN online เตือนฉบับ 6 "พายุดีเปรสชัน" คาดขึ้นฝั่งเมียนมาพรุ่งนี้ กระทบไทยมีฝนเพิ่มขึ้น

TNN ONLINE

Earth

เตือนฉบับ 6 "พายุดีเปรสชัน" คาดขึ้นฝั่งเมียนมาพรุ่งนี้ กระทบไทยมีฝนเพิ่มขึ้น

เตือนฉบับ 6 พายุดีเปรสชัน คาดขึ้นฝั่งเมียนมาพรุ่งนี้ กระทบไทยมีฝนเพิ่มขึ้น

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 พายุดีเปรสชัน คาดขึ้นฝั่งเมียนมาพรุ่งนี้ กระทบไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง

วันนี้ (21 มี.ค.65) ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 21-22 มีนาคม 2565)" ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2565

เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันนี้ (21 มี.ค. 65) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลอันดามันตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 94.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 60 กม./ชม. 

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันออกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 65) ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักถึงหนักมากที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 มี.ค. 65

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.00 น.

เตือนฉบับ 6 พายุดีเปรสชัน คาดขึ้นฝั่งเมียนมาพรุ่งนี้ กระทบไทยมีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา

ภาพจาก AFP / กรมอุตุนิยมวิทยา

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง