TNN online อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ยืนยันไม่ทิ้งคดี "บิลลี่ พอละจี"

TNN ONLINE

อาชญากรรม

อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ยืนยันไม่ทิ้งคดี "บิลลี่ พอละจี"

อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ยืนยันไม่ทิ้งคดี บิลลี่ พอละจี

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เยี่ยมภรรยา "บิลลี่" แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ที่หายตัวปริศนา ยืนยันไม่ทิ้งคดี หลังที่ผ่านมาเป็นเพียงผู้ตรวจราชการ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้

วันนี้ (25 มิ.ย.63) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เดินทางมายังบ้านของ นางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอย ที่หายตัวไปกว่า 6 ปี ในตำบลพื้นที่ป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อแจ้งผลความคืบหน้าทางคดี และให้กำลังใจต่อนางมึนอ และครอบครัว

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกฎหมายอุ้มหาย ได้ผ่านการพิจารณาของครม.แล้ว ซึ่งถ้ากฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณาจะทำให้ DSI มีอำนาจในการดำเนินการสืบสวนได้เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น และจะสามารถช่วยให้ครอบครัวของผู้เสียหาย ได้รับความยุติธรรมในการสืบสวน ซึ่งสำหรับคดีของบิลลี่นั้นยังถือว่าไม่จบสิ้น เพราะ DSI สามารถทำความเห็นแย้งไปยังอัยการได้ตลอดเวลา ยืนยันว่า คดีดังกล่าวตนจะดูแลในเรื่องของรายละเอียดของคดีด้วยตนเอง และที่ผ่านมาไม่ได้ทอดทิ้งคดีแต่อย่างใด แต่เนื่องจากตนเองเป็นผู้ตรวจราชการของ DSI  ทำให้ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวในคดีได้

ขณะที่ นางพิณนภา เปิดเผยความรู้สึก ว่ามั่นใจขึ้นที่เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการเสียชีวิตของบิลลี่ เพราะถือว่าคดีมีความคืบหน้ามากกว่า 6 ปีก่อน และจะช่วยเหลือด้านคดีให้ครอบครัวและตัวของเธอได้รับความยุติธรรม

สำหรับความคืบหน้าของคดีที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่พบกระดูกกะโหลกมนุษย์ในถังขนาด 200 ลิตรที่จมอยู่ใต้น้ำ บริเวณสะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน เมื่อเดือนเม.ย.2562 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่ากระดูกที่พบมีสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของบิลลี่ นั่นทำให้ดีเอสไอเชื่อได้ว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้ว และยืนยันว่าเป็นการฆาตกรรม 

จนนำมาสู่การออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรและพวกรวม 4 คน แต่ท้ายที่สุดอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องทั้ง 4 คน ในข้อหาฆ่าบิลลี่ โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาเป็นเจ้าหน้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพียงเท่านั้น ซึ่งดีเอสไอสามารถยื่นแย้งกลับมายังอัยการได้ โดยที่ไม่ต้องหาพยาน หลักฐานใดมาเพิ่ม เพียงแค่ทำเรื่องยื่นแย้งอีกครั้ง

ในส่วนของร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการบังคับบุคคลให้สูญหาย ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปเมื่อวานที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้มอบอำนาจให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานเดียวที่จะทำการสืบสวนสอบสวน เกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุคคลให้สูญหาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สมศักดิ์" แจงย้าย "พ.ต.ท.กรวัชร์" ไร้ใบสั่ง ยันไม่กระทบคดี "บิลลี่"

มติ ครม.แต่งตั้ง "พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร" นั่งอธิบดีดีเอสไอ 

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง