อัยการสั่งไม่ฟ้อง”ชัยวัฒน์”อุ้มฆ่า”บิลลี่”
อัยการสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์ กับพวก คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง-ฆ่า บิลลี่ โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ กรณียึดน้ำผึ้งป่าของ บิลลี่ แล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า
วันที่ 24
มกราคม 2563 มีรายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 โดยนายชวรัตน์ วงศ์ธนสมบูรณ์
อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1
ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เพื่อส่งคืนสำนวนการสอบสวน จำนวน 17 แฟ้ม
ในคดีที่ดีเอสไอมีความ เห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร
อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวกรวม 4 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดฐานอื่นๆ กรณีการอุ้มฆ่า
นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก –บางกลอย
ซึ่งพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1
นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น
เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยง
ให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย
เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม , ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน
โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดติดตัวไปด้วย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดใดแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด
เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต , ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
83 ,147, 148, 289(4)
(7),309, 337, 340 ตรี
และป.วิอาญา มาตรา 150 ทวิ
ทั้งนี้มีงานข่าวเปิดเผยว่า อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 คงมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์กับพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 กรณียึดน้ำผึ้งป่าของบิลลี่ แล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีฆาตกรรมนายพอละจี จำนวน 8 ข้อกล่าวหา
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand