อัยการสั่งไม่ฟ้อง! 'วัฒนา-จาตุรนต์-ชูศักดิ์' วิจารณ์รัฐบาลคสช.

วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ตามกำหนดนัดฟังคำสั่งในคดีที่ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย 3 ผู้ต้องหา ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งผู้แทนแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่า กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น

จากกรณีแถลงผลงานของ คสช.ในหัวข้อ "4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำไปสู่ความมืดมนและอันตราย" ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2561

นายนรินทร์พงศ์ กล่าวว่า วันนี้อัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง แกนนำพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน แต่ยังไม่แจ้งเหตุผลว่า เหตุใดจึงสั่งไม่ฟ้อง และก่อนหน้านี้อัยการ ได้แจ้งความเห็นไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตำรวจเอง ก็เห็นพ้องด้วย สั่งไม่ฟ้องเช่นกัน ทำให้คดีถือเป็นอันสิ้นสุด

สำหรับคดีนี้ เข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2561 โดย 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้น พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องทั้ง 3 คนต่อพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 ในระหว่างการพิจารณาคดีของพนักงานอัยการ ทั้ง 3 คนได้ยื่น ขอความเป็นธรรม เพื่อให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม และมีการเลื่อนสั่งคดีมาถึง 9 ครั้ง จนกระทั่งพนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง 3 แกนนำพรรคเพื่อไทยดังกล่าว ซึ่ง ตนเองจะขอคัด เอกสารจากอัยการ เพื่อทราบถึงสาเหตุ ขอความเห็นในการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งคาดว่า จะได้เอกสารไม่เกิน สิ้นเดือนกันยายนนี้

ส่วนกรณีของ นายพิชัย นริทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ถูกแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์หน้าปกนิตยสารไทม์และโพสต์ภาพ ที่ร่วมงานเสวนาในประเด็นเศรษฐกิจเกี่ยวกับการปราบคอรัปชั่นในยุค คสช.และพลังดูดนั้น ในวันนี้ทางทนายหารือกับอัยการเจ้าของสำนวน ซึ่งอัยการมีความเห็นแล้วแต่ยังไม่เปิดเผยให้ทนายทราบ และเรื่องอยู่ที่อธิบดีอัยการว่ามีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยอัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 29 ตุลาคม 2562