TNN online "ชัยวัฒน์"พร้อมสู้คดี"บิลลี่"ลั่นไม่ได้ทำผิด!

TNN ONLINE

อาชญากรรม

"ชัยวัฒน์"พร้อมสู้คดี"บิลลี่"ลั่นไม่ได้ทำผิด!

ชัยวัฒน์พร้อมสู้คดีบิลลี่ลั่นไม่ได้ทำผิด!

“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”รู้ตัวมีคนจ้องเล่นงานตนคดี”บิลลี่”และพร้อมต่อสู้ทางกฎหมาย ลั่นหากทำคดีร้ายแรงจริง คงไม่กล้านำศพไปทิ้งในพื้นที่ใกล้ตัว


หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยืนยันพบหลักฐานเชื่อมโยง คดีการหายตัวไปของ นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยง บ้านโป่งลึก – บางกลอย ถูกฆาตกรรม และเผาอำพรางคดี โดยพบชิ้นส่วนโครงกระดูกในถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่บริเวณริมสะพานแขวนใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่ามีสารพันธุกรรมที่มีส่วนเชื่อมโยงกับทางมารดาของนายบิลลี่ 


ล่าสุด วันนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 9 อุบลราชธานี ในฐานะอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า หากตนทำผิดร้ายแรงแบบนั้นจริง คงไม่กล้านำศพไปทิ้งไว้ในพื้นที่ที่ใกล้ตัว แม้ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ไม่มีใครกล้าทำ นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ระบุด้วยว่า มีคนจ้องตนเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง 


ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ตั้งข้อสังเกตถึงผลสรุปของดีเอสไอที่ระบุว่าพบกระดูกที่บริเวณสะพานนั้น บริเวณดังกล่าว เป็นที่ที่ชาวพอละจีกะเหรี่ยงบางกลอย จะนำกระดูกของคนตายมาลอยอังคารกันอยู่แล้ว และการตรวจโดยวิธี “ไมโทคอนเดรีย”นั้น มาพิสูจน์อย่างเดียวว่ากระดูกชิ้นนั้นเป็นของบิลลี่ ไม่น่าจะมีน้ำหนักพอ ซึ่งหลังจากนี้ต้องเตรียมตัวต่อสู้ทางกฏหมายต่อไป 


สำหรับคดีการหายตัวไปของนายบิลลี่ นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ว่าเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 นายชัยวัฒน์ จับกุมและควบคุมตัวนายบิลลี่ พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ และน้ำผึ้งเป็นของกลาง แต่นายชัยวัฒน์ ไม่ได้นำตัวนายบิลลี่ไปดำเนินคดี จากนั้นไม่มีผู้ใดพบเห็น หรือสามารถติดต่อนายบิลลี่ได้ เชื่อว่า นายบิลลี่ ยังอยู่ในความควบคุมของนายชัยวัฒน์ อันเป็นการควบคุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งปล่อยนายบิลลี่ และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เยียวยาความเสียหายตามที่ศาลเห็นสมควร 


ต่อมาผลคดีศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง  ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลฎีกาพิพากษายืน ถือว่าคดีถึงที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง