TNN online ชาวบ้านแห่แจ้งความออนไลน์พุ่ง “หลอกลวงด้านการเงิน” 2,512 เคส

TNN ONLINE

อาชญากรรม

ชาวบ้านแห่แจ้งความออนไลน์พุ่ง “หลอกลวงด้านการเงิน” 2,512 เคส

ชาวบ้านแห่แจ้งความออนไลน์พุ่ง “หลอกลวงด้านการเงิน” 2,512 เคส

ตร.เผยชาวบ้านแห่ใช้บริการแจ้งความออนไลน์มากขึ้น คดีหลอกลวงด้านการเงินเยอะสุด 2,512 เรื่อง

วันนี้ (19 มี.ค. 65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในการการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ (ศูนย์ฯ) ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการให้มาติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายมาใช้บริการแจ้งความออนไลน์มากถึงวันละ 300 ราย และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำได้ง่าย สะดวก สามารถแจ้งที่ไหนก็ได้ มีเจ้าหน้าที่เป็นแอดมินให้บริการ และเชื่อมโยงข้อมูลทางคดีที่เกี่ยวข้องกันได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้เสียหายยังสามารถติดตามความคืบหน้าคดีผ่านระบบ หรือสอบถามปัญหากับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาอีกด้วย

 ทั้งนี้จากสถิติการรับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 1-18 มี.ค.65 มีการแจ้งความออนไลน์มากถึง 3,752 คดี สูงสุดคือคดีหลอกลวงด้านการเงิน 2,512 เรื่อง รองลงมาเป็นการหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 731 เรื่อง ข่าวปลอม Fake News 82 เรื่อง พนันออนไลน์ 9 เรื่อง ล่วงละเมิดทางเพศ 3 เรื่อง และคดีอาญาอื่นๆ หรือคดีแพ่งที่ยังไม่เข้าข่ายความผิดอีก 415 เรื่อง

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ได้ส่งเรื่องให้สถานีตำรวจที่มีอำนาจสอบสวนแล้ว 3,741 เรื่อง ที่เหลืออีก 11 เรื่องอยู่ระหว่างติดต่อผู้เสียหายเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ตรวจสอบจากระบบพบว่าพนักงานสอบสวนมีการนัดหมายผู้แจ้งแล้ว 3,661 เรื่อง และคดีมีความเชื่อมโยงกันถึง 210 เรื่อง

โดยแบ่งเป็นคดี 5 ประเภท คือ 1.หลอกลวงขายสินค้า มี 16 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 116 ราย, 2.หลอกลวงขาย ATK มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 21 ราย, 3.หลอกลวงทางด้านการเงิน 10 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 47 ราย, 4.หลอกลงทุนน้ำมัน "ออสซี่ออยล์" มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย และ 5.หลอกลงทุนธุรกิจเพชร มี 3 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีคนร้ายทั้งหมด 337 บัญชี จำนวนเงิน 129,948,940 บาท โดยสามารถอายัดได้แล้วกว่า 32 ล้านบาท

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เริ่มมีประชาชนแจ้งความเข้ามาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นคดีหลักของโรงพัก แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากศูนย์ฯ ทำให้พนักงานสอบสวนทำงานง่ายขึ้น สามารถอายัดบัญชีคนร้าย และออกหมายจับผู้กระทำผิดได้รวดเร็วขึ้น จากแต่ก่อนต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ซึ่งในอนาคต จะพัฒนาขีดความสามารถของระบบการรับแจ้งความออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับปริมาณคดีที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

   ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับให้ ตร. เร่งตรวจสอบความผิดทางออนไลน์ หากพบหลักฐานการกระทำความผิดให้ดำเนินการไปตามกฏหมายสูงสุด เพราะถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน และให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน จึงเป็นที่มาของโครงการระบบการรับแจ้งความทางออนไลน์นี้ ทั้งนี้หากมีปัญหาสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ https://pct.police.go.th

ภาพจาก : www.thaipoliceonline.com