TNN online เปิดโทษ "ปลอมใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด" ร้ายแรงขนาดไหน ตร.บอกชัด!

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

เปิดโทษ "ปลอมใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด" ร้ายแรงขนาดไหน ตร.บอกชัด!

เปิดโทษ ปลอมใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด ร้ายแรงขนาดไหน ตร.บอกชัด!

สตช.เปิดโทษ "ปลอมใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด-19" เจอทั้งจำและปรับถึงหลักแสน! เตือนปชช.อย่าหลงเชื่อมิจจาชีพ

วันนี้( 15 ธ.ค.64) เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ 

กรณีที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 19 สามารถจ้างผู้อื่นทำได้ แม้ไม่ได้ฉีดจริง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

โดยเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของจริงจะต้องออกโดยสถานที่ฉีดเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจึงไม่สามารถได้รับเอกสารดังกล่าวได้แต่อย่างใด และขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพราะการปลอมเอกสารราชการมีความผิดทางกฎหมาย ต้องระวางโทษทั้งจำ และปรับ

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร. 1422

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ




ภาพจาก AFP/หมอแล็บแพนด้า/TNN Online

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง