TNN online รมช.สธ.ชี้หาก"โอไมครอน"ระบาดหนัก อาจปรับแผนฉีดกระตุ้นเข็ม3เร็วขึ้น

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

รมช.สธ.ชี้หาก"โอไมครอน"ระบาดหนัก อาจปรับแผนฉีดกระตุ้นเข็ม3เร็วขึ้น

รมช.สธ.ชี้หากโอไมครอนระบาดหนัก อาจปรับแผนฉีดกระตุ้นเข็ม3เร็วขึ้น

รมช.สธ.เผยรัฐบาลยังไม่ทบทวนปิดประเทศหลังโอไมครอนระบาดอาจต้องปรับแผนฉีดวัคซีน กระตุ้นเข็มที่ 3 ให้เร็วขึ้น

วันนี้ (2ธ.ค.64) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตอบกระทู้ถาม ส.ส.ถึงการพิจารณาปิดประเทศ หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนว่า จากสถิติอัตราการแพร่ระบาดติดเชื้อ ยังไม่มีความชัดเจน จนมากพอที่จะสามารถสรุปได้ว่า รัฐบาลจะเปลี่ยนนโยบายติดประเทศหรือไม่ เพราะจากระบาดในทวีปแอฟริกานั้น ยังพบว่า อัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนยังน้อย แต่ยืนยันว่า รัฐบาล จะไม่ประมาท

นายสาธิต ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมวัคซีน การกลายพันธุ์โอไมครอนนั้นว่า รัฐบาลกำลังติดตามการพัฒนาวัคซีนในแต่ละยี่ห้อ ที่เมื่อบริษัทใด สามารถผลิตวัคซีนป้องกันการกลายพันธุ์ได้ รัฐบาลก็พร้อมจัดซื้อทันที แต่ระหว่างนี้ยังคงขอให้ประชาชน สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างตามมาตรการสาธารณสุข ที่จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ถึง 80% ในทุกการกลายพันธุ์

นายสาธิต ยังยอมรับด้วยว่า หากสถานการณ์ของโอมิครอนแพร่ระบาดรุนแรง และมีแนวโน้มที่คุมไม่อยู่ การฉีดวัคซีนเข็มสาม อาจมีความจำเป็นที่ต้องลดเวลาฉีดวัคซีน อาจต้องปรับแผนฉีดวัคซีน กระตุ้นเข็มที่ 3 ให้เร็วขึ้น จากเดิมที่กำหนดให้มีระยะห่าง 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ มีข้อมูลต่างประเทศ ที่มีอัตราติดเชื้อสูง คือ ในกลุ่มผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน แต่ส่วนตัวเห็นว่า ภูมิคุ้มกันหมู่อาจไม่ช่วย ดังนั้นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ให้ได้ 90% จากปัจจุบันที่ฉีดแล้ว 70% เพื่อป้องกันอาการหนัก หรือตาย

ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์นั้น นายสาธิต ชี้แจงว่า ขณะนี้ ประเทศที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ยังมีปัญหาจัดส่งวัคซีน และประเทศไทย และยืนยันว่า ประเทศไทย ยังมีสิทธิในนวัตกรรมใหม่ ๆ ของวัคซีน และยังมีความร่วมมือทุกทาง ที่ทำให้เกิดประโยชน์กับคนไทย รวมถึงมีนวัตกรรมที่คิด และทำเอง โดยได้ประสานงานกับองค์กรนานาชาติ รวมถึงองค์การอนามัยโลก



ภาพจาก TNN ONLINE

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง