เดนมาร์กจ่อยกระดับโควิด-19 เป็นภัยคุกคามขั้นวิกฤติแห่งชาติอีกครั้ง

วันนี้ ( 9 พ.ย. 64 )รัฐบาลเดนมาร์กเตรียมประกาศยกระดับการระบาดของโควิด-19 เป็นภัยคุกคามขั้นวิกฤติของประเทศอีกครั้ง ตามคำแนะนำของคณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของเดนมาร์ก  และจะหวนกลับไปเริ่มใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ครั้งใหม่ หลังจากเพิ่งยกเลิกมาตรการคุมโควิดทั้งหมดไปเพียงเมื่อ 2 เดือนก่อน เนื่องจากโควิดกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ด้านนายกรัฐมนตรี เมตต์ เฟรดเดอริกเซน ระบุเมื่อวานนี้ (8 พฤศจิกายน) ว่า จะเสนอรัฐสภาเดนมาร์กในวันพรุ่งนี้ (10 พฤศจิกายน) เพื่อให้อนุมัติการประกาศให้โควิดเป็นภัยคุกคามขั้นวิกฤติ และการนำมาตรการคุมโควิดกลับมาใช้ใหม่ โดยจะเริ่มที่การหวนกลับไปใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต” ก่อนจะเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะ หลังจากผู้เชี่ยวชาญของเดนมาร์ก คาดการณ์ว่า การระบาดของโควิดจะพุ่งสูงขึ้นในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ และจะระบาดอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาด

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพิ่งระบุว่า ยุโรปได้กลับมาเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อหลายประเทศทั่วยุโรป กลับมาพุ่งขึ้นระลอกใหม่ เดนมาร์กเพิ่งยกเลิกมาตรการคุมโควิดทั้งหมดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้น การระบาดของโควิดกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่เดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิดสูงที่สุด โดยฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้วร้อยละ 75 ของประชากร

ล่าสุด เดนมาร์กพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,294 คนเมื่อวานนี้ (8 พฤศจิกายน) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 4.4,855 คน มีผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่ม 2 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,740 คน 

หากรัฐสภาเดนมาร์กอนุมัติตามที่นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเสนอ จะทำให้ชาวเดนมาร์กต้องหวนกลับไปแสดงวัคซีนพาสปอร์ต ก่อนเข้าใช้บริการในภัตตาคาร ร้านอาหาร ไนต์คลับ โรงภาพยนตร์ และสถานที่แสดงคอนเสิร์ต หากว่ามีผู้ใช้บริการมากกว่า 200 คน โดยวัคซีนพาสปอร์ตจะเป็นการรับรองการฉีดวัคซีนครบแล้ว และมีผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ หรือเพิ่งหายป่วยจากโควิด.

ภาพจาก :   AFP