TNN online หมอเฉลิมชัย เผยข่าวดี "ยาโมลนูพิราเวียร์" จะถูกลง 88 เท่าตัว

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

หมอเฉลิมชัย เผยข่าวดี "ยาโมลนูพิราเวียร์" จะถูกลง 88 เท่าตัว

หมอเฉลิมชัย เผยข่าวดี ยาโมลนูพิราเวียร์ จะถูกลง 88 เท่าตัว

นพ.เฉลิมชัย เผย ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) จะถูกลง 88 เท่า จาก 23,100 บาท เหลือ 264 บาทต่อคอร์ส

วันนี้( 30 ต.ค.64) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun เกี่ยวกับ โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)

โดยระบุว่า  ข่าวดี !! บริษัทยายักษ์ใหญ่ ไม่คิดค่าสิทธิบัตรยาต้านไวรัส Molnupiravir ทำให้ประเทศยากจน จะได้ใช้ยาถูกลง 88 เท่าตัว จาก 23,100 บาทเหลือ 264 บาทต่อคอร์ส

ข่าวดีมากสำหรับประเทศรายได้ปานกลางและยากจน โดยมีการแถลงข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัท MSD (Merck&Co.,Inc.) บริษัท Ridgeback Biotherapeutics และมหาวิทยาลัย Emory 

ว่าจะไม่คิดค่าสิทธิบัตรของยาต้านไวรัสตัวใหม่ Molnupiravir โดยได้ทำข้อตกลงกับ MPP (The Medicine Patent Pool) ซึ่งเป็นหน่วยงานทางสาธารณสุขที่องค์การอนามัยโลกสนับสนุน

ข้อตกลงดังกล่าว ถือว่าเป็นข้อตกลงแรกที่เกี่ยวกับยาและเทคโนโลยีโควิด-19 

โดยมีสาระสำคัญว่า ทั้งสองบริษัทและหนึ่งมหาวิทยาลัย จะไม่ขอรับค่าสิทธิบัตรจากยาต้านไวรัสดังกล่าว ทำให้ประเทศรายได้ต่ำ และรายได้ได้ปานกลาง 105 ประเทศ และบริษัทยากกว่า 50 

บริษัทในประเทศดังกล่าว สามารถผลิตยา Molnupiravir ได้เอง จึงทำให้ราคายาต่อคอร์ส ลดลงอย่างมาก จาก 23,100 บาท( 700 เหรียญสหรัฐ) เหลือเพียง 264 บาท (8 เหรียญสหรัฐ) ลดลงมากกว่า 87.5 เท่าตัว

มีเงื่อนไขว่า การไม่คิดค่าสิทธิบัตรดังกล่าวนั้น จะกระทำต่อเนื่องกันไปตราบเท่าที่องค์การอนามัยโลกยังประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดของโลก ( Public Health Emergency of International Concern) โดยการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 

ผู้บริหารบริษัท Merck ได้ออกมาแถลงว่า บริษัทซึ่งก่อตั้งมากว่า 130 ปี  มีเจตนารมณ์ที่จะวิจัยพัฒนายาและเวชภัณฑ์ต่างๆเพื่อช่วยมนุษยชาติเป็นหลัก

อธิการบดีของ Emory University แถลงว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายที่จะรับใช้มนุษยชาติหรือรับใช้สังคม

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Ridgeback กล่าวว่าข้อตกลงนี้ เป็นตัวอย่างที่สำคัญของความร่วมมือที่จะทำให้ระบบสุขภาพของโลกดีขึ้น

ผู้บริหารของ MPP กล่าวว่า เป็นข้อตกลงแรกที่เกี่ยวกับ โควิด-19 ในอดีต MPP ได้ทำข้อตกลงที่ทำให้ประชาชนที่อาศัยในประเทศรายได้ปานกลางและประเทศยากจนได้เข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ทีjจำเป็นกับชีวิตในราคาที่ไม่แพง เช่น กลุ่มยาโรคเอดส์ ยาโรคตับไวรัสตับอักเสบซี  และยารักษาวัณโรค เป็นต้น

ยา Molnupiravir เป็นยาที่ได้รับการพัฒนาขึ้น โดยมหาวิทยาลัย Emory และให้บริษัท Ridgeback และ Merck เป็นผู้รับสิทธิบัตรในการดำเนินการผลิตต่อไป โดยมีชื่อรหัส MK 4482 และ EIDD 2801 ออกฤทธิ์ต่อต้านการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของไวรัส

ในการวิจัยเฟสสาม สามารถลดจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลได้ถึง 50% ในผู้ป่วยอาการน้อยหรือปานกลาง โดยไม่มีผู้เสียชีวิต

ขณะนี้อยู่ในการทดลองเฟสสาม และได้ยื่นขออนุมัติใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) ต่อ USFDA และหน่วยงานของทวีปยุโรป (EMA) ถ้าได้รับการอนุมัติ ก็จะเป็นยาตัวแรกของโลก ที่ออกฤทธิ์ต่อต้านไวรัสก่อโรคโควิด-19 โดยตรง และถือเป็นข่าวดีมาก ที่ผู้เป็นเจ้าของและถือสิทธิบัตรยาดังกล่าว ได้ตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่มากในวงการธุรกิจไม่คิดค่าสิทธิบัตรยาใหม่ที่สามารถทำเงินมหาศาล

ทำให้ 105 ประเทศทั่วโลก สามารถเข้าถึงยาตัวนี้ได้ในราคาที่ถูกลงกว่า 88 เท่าตัว

ถ้าบริษัทต่างๆที่เกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์ ได้ดำเนินนโยบายแนวทางเดียวกันนี้ก็จะทำให้ประชาชนกว่าครึ่งโลก ในประเทศที่ยากจนและประเทศรายได้ปานกลาง มีโอกาสได้รับการรักษาอย่างมีคุณภาพ และน่าจะลดการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำของมนุษย์ลงได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผู้เขียนขอแสดงความชื่นชมและขอบพระคุณเป็นอย่างสูง กับทั้งสองบริษัทและหนึ่งมหาวิทยาลัย ที่ร่วมมือกันทำสิ่งที่ดี ที่สวยงาม ให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ครับ"




ภาพจาก AFP/Chalermchai Boonyaleepun

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง