TNN online โควิดสายพันธุ์เดลต้าแนวโน้มอันตรายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการหลบหลีกวัคซีน

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

โควิดสายพันธุ์เดลต้าแนวโน้มอันตรายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการหลบหลีกวัคซีน

โควิดสายพันธุ์เดลต้าแนวโน้มอันตรายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการหลบหลีกวัคซีน

โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า มีแนวโน้มพัฒนาอันตรายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร้ายแรงที่ส่งผลถึงชีวิตและการหลบหลีกวัคซีน

วันนี้ (7ส.ค.64) นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) อ้างอิงรายงานจากกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน (SAGE) ของอังกฤษ ที่รายงานว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้า มีแนวโน้มจะพัฒนาสู่รูปแบบที่อันตรายยิ่งขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะความร้ายแรงที่ส่งผลถึงชีวิตและการหลบหลีกวัคซีน 

ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และนักระบาดวิทยา ตั้งข้อสังเกตว่านอกเหนือจากวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ควรบังคับใช้มาตรการต่างๆ เช่น สวมหน้ากากอนามัย การกักตัว และการจำกัดพื้นที่ หรือ ล็อกดาวน์ เนื่องจาก พฤติกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

ด้าน นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) แถลงเมื่อวานนี้ว่า มีหลักฐานเตือนว่า คนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว อาจสามารถติดและแพร่เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือ สายพันธุ์อินเดีย ได้ง่ายพอๆกับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนแต่ข้อมูลหลักฐานนี้ยังมีเพียงเล็กน้อยและจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม 

ขณะเดียวกันหลักฐานนี้ ก็สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ที่แสดงความกังวลว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า และสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งไม่เหมือนกับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อื่น

โควิดสายพันธุ์เดลต้า กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 4.4 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งในอังกฤษที่เสียชีวิตมากกว่า 130,000 คน แต่การฉีดวัคซีนแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถป้องกันไม่ให้มีอาการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลต้าได้ โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าในอังกฤษที่ถูกส่งตัวรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนร้อยละ 55.1 และร้อยละ 34.9 ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ขณะที่ ประชาชนชาวอังกฤษเกือบร้อยละ 75 ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งแม้จะมีผู้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่ยังเห็นคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละที่สูงขึ้นต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ อังกฤษยังพบไวรัสสายพันธุ์อื่นที่เรียกว่า B.1.621 ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในโคลอมเบีย ที่ส่งสัญญาณสามารถหลบเลี่ยงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่เกิดจากทั้งการฉีดวัคซีนโควิด หรือการติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบแต่ยังไม่มีการประกาศว่า เป็นไวรัสสายพันธุ์ที่สร้างความกังวล และยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า B.1.621 ระบาดได้ง่ายและเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้มีการยืนยันแล้วว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ในอังกฤษแล้ว 37 คน

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง