TNN online นักวิทย์อังกฤษชี้ ฉีดวัคซีนแล้วแพร่เชื้อ “เดลตา” ได้ง่ายเช่นกัน!

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

นักวิทย์อังกฤษชี้ ฉีดวัคซีนแล้วแพร่เชื้อ “เดลตา” ได้ง่ายเช่นกัน!

นักวิทย์อังกฤษชี้ ฉีดวัคซีนแล้วแพร่เชื้อ “เดลตา” ได้ง่ายเช่นกัน!

นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ พบหลักฐานเบื้องต้นว่า คนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อ “เดลตา” ได้ง่ายพอๆกับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

วันนี้( 7 ส.ค.64) นักวิทยาศาสตร์ที่สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ หรือพีเอชอี (PHE) แถลงมีหลักฐานเตือนเบื้องต้นว่า คนที่ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจสามารถแพร่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา (Delta) ได้ง่ายพอๆกับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งหลักฐานการค้นพบครั้งนี้สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี (CDC) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แสดงความวิตกกังวลว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งไม่เหมือนกับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อื่น

ไวรัสเดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 4.4 ล้านราย ซึ่งรวมทั้งในอังกฤษด้วยมากกว่า 130,000 ราย แต่การฉีดวัคซีนแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถปกป้องได้ดีไม่ให้มีอาการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะอย่างกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังสามารถแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้

HPE ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า หลักฐานเบื้องต้นบางชิ้น บ่งบอกให้รู้ว่า ระดับของไวรัสในคนที่ติดเชื้อเดลตา ซึ่งฉีดวัคซีนแล้วอาจใกล้เคียงกับที่พบในคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน 

ซึ่งนี่อาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อของผู้คน ไม่ว่าพวกเขาจะฉีดวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นี้เป็นเพียงการวิเคราะห์เบื้องต้นและจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่า เกิดกรณีเช่นนี้จริงหรือไม่

PHE ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสเดลตาที่ได้รับการยืนยันว่าถูกส่งตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลในอังกฤษตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม มีผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนร้อยละ 55.1 และร้อยละ 34.9 ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว  

ประชาชนชาวอังกฤษเกือบร้อยละ 75 ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และ PHE ระบุว่า ถึงจะมีผู้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเห็นคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ PHE บอกด้วยว่า ไวรัสสายพันธุ์อื่น ที่เรียกว่า B.1.621 ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในโคลอมเบีย แสดงสัญญาณให้เห็นถึงการหลบเลี่ยงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่เกิดจากทั้งการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือการติดเชื้อครั้งก่อน ซึ่ง PHE ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ไม่ได้ประกาศว่า มันเป็นไวรัสสายพันธุ์ที่สร้างความกังวล ซึ่งเป็นตัวกำหนดให้มีการกระตุ้นการตอบสนองเชิงนโยบายเข้มข้นมากขึ้น 

สาธารณสุขอังกฤษ ระบุอีกว่า มีหลักฐานเบื้องต้นในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ที่บอกว่า การฉีดวัคซีน และการติดเชื้อครั้งก่อน อาจมีประสิทธิภาพน้อยในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B.1.621 และมีการยืนยันแล้วว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ในอังกฤษแล้ว 37 ราย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยังมีอยู่อย่างจำกัดมาก และต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมอีก ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า B.1.621 ระบาดได้ง่ายและเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง