TNN online สธ.เปิดไทม์ไลน์ "แอสตร้าเซนเนก้า" แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

สธ.เปิดไทม์ไลน์ "แอสตร้าเซนเนก้า" แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

สธ.เปิดไทม์ไลน์ แอสตร้าเซนเนก้า แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวเคลียร์ปม "แอสตร้าเซนเนก้า" เป็นการทำสัญญาล่วงหน้า ไม่ได้มีการระบุวันเวลาที่แน่ชัดในการส่ง แต่ก่อนส่งทุกล็อตจะมีการเจรจาทุกเดือน เผยไม่ทราบว่าบริษัทจะต้องส่งวัคซีนให้ต่างประเทศจำนวนเท่าใด

วันนี้ (18 ก.ค.64) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเกี่ยวกับสัญญาการจัดซื้อวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่รัฐบาลไทยทำเป็นการทำสัญญาล่วงหน้า ซึ่งไม่ได้มีการระบุวันเวลาที่แน่ชัดในการจัดส่ง แต่ก่อนส่งทุกล็อตจะมีการเจรจาจัดส่งวัคซีนก่อนทุกเดือน แต่หากเป็นไปได้ไทยขอให้จัดส่งครบ 61 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564

ส่วนกรณีให้จัดส่ง 3 ล้านโดส นพ.โอภาส ชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่มาจากวงประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.63 ยืนยัน กรมควบคุมโรค ยังไม่เคยบอกอย่างเป็นทางการว่าจะฉีดได้ 3 ล้านโดส รวมถึงเพิ่งทราบในวันที่ 25 มิ.ย.ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในไทยนั้น จะมีการส่งให้ต่างประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลไม่ทราบมาก่อน 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผ่านออนไลน์แจ้งกรณีหนังสือข้อความที่ลงวันที่ 25 มิ.ย.2564 จากนายสจอร์ด ฮับเบน รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรทั่วโลก ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ส่งให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า หากดูภาพรวมของหนังสือ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ได้ขอบคุณทางรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่สนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีนของบริษัท ทำให้สามารถผลิตวัคซีนขึ้นได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศอื่นนอกอาเซียนด้วย 

สธ.เปิดไทม์ไลน์ แอสตร้าเซนเนก้า แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

รวมถึงรายงานที่ทางบริษัทได้ทำมาในการจัดส่งวัคซีนให้ตั้งแต่ต้น ตามข้อกำหนดการจัดส่งวัคซีนที่ทำไว้และมีการเจรจา ซึ่งโรงงานผลิตวัคซีนในไทยสามารถมอบวัคซีนได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ได้มีการจัดหาวัคซีนให้ไทยล่วงหน้าด้วย และมีการระบุถึงจำนวนวัคซีน โดยประเทศไทยได้จองมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จำนวน 61 ล้านโดส โดยกำลังการผลิตวัคซีนของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จะส่งให้ไทยได้ 1 ใน 3 โดยจะพยายามส่งให้ครบถ้วนตามสัญญา 

หากสังเกตดูในหนังสือการเจรจาตอนนั้น การผลิตวัคซีนยังไม่ได้แม้แต่ขวดเดียวเป็นการทำสัญญาล่วงหน้า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการระบุว่า เดือนไหนจะส่งจำนวนเท่าไรกี่โดส แต่ในสัญญาจะระบุเพียงเวลาที่จะส่งโดยจะแจ้งเป็นรายเดือน แต่ละเดือนที่ไทยต้องการ

ต่อมา กรมควบคุมโรคได้มีหนังสือแจ้งไปยังแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ในวันที่ 24 เมษายน ซึ่งทุกเดือนจะมีการส่งไปให้บริษัท โดยรายละเอียดในหนังสือจะระบุว่า จะขอวัคซีนเดือนมิถุนายน 6 ล้านโดส เดือนกรกฎาคม 10 ล้านโดส เดือนสิงหาคม 10 ล้านโดส เดือนกันยายน 10 ล้านโดส เดือนตุลาคม 10 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน 10 ล้านโดส เดือนธันวาคม 5 ล้านโดส โดยเป็นหนังสือ ยืนยันว่า ไทยต้องการวัคซีนจำนวนเท่าใด ส่วนเรื่องการส่งมอบต้องขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของแอสตร้าเซนเนก้าในไทยด้วย แต่สิ่งที่ขอไปไม่ได้แปลว่าไทยจะได้ตามที่ขอ

สธ.เปิดไทม์ไลน์ แอสตร้าเซนเนก้า แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

ในจดหมายที่ระบุว่า ประเทศไทยขอให้แอสตร้าเซนเนก้า จัดส่งวัคซีนให้ 3 ล้านโดสนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลชุดนี้เป็นการอ้างอิงมาจากวงประชุมแบบไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 เมื่อเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการก็เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ในเดือนกันยายน 2563 มีการสอบถามว่า ความสามารถในการฉีดวัคซีนของประเทศไทยอยู่ที่เท่าใด ซึ่งขณะนั้นข้อมูลที่มีอยู่ คือ การฉีดอยู่ที่ประมาณวันละ 3 ล้านโดส 

ยืนยัน กรมควบคุมโรค ยังไม่เคยบอกอย่างเป็นทางการออกมาว่าจะฉีดได้ 3 ล้านโดส แต่ที่ผ่านมาได้มีตัวเลขประมาณการ ขีดความสามารถของไทยสามารถฉีดวัคซีนอยู่ที่ 10 ล้านโดสต่อเดือน หากวัคซีนมีความเพียงพอ ส่วนการจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ไทยจะมี 2 ส่วน คือ ความต้องการของประเทศไทย และอีกส่วนคือกำลังการผลิตของบริษัท 

ทั้งนี้ ในชุดสัญญาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้านั้น มาจาก 3 ฝ่าย คือ กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย โดยการทำสัญญาเป็นการจองวัคซีนล่วงหน้า ซึ่งแอสตร้าเซนเนก้า ระบุไม่ได้ว่าจะมีการผลิตวัคซีนได้เท่าใด ซึ่งการจัดส่งมอบวัคซีนจะมีการเจรจาวัคซีนเป็นรายเดือน 

สธ.เปิดไทม์ไลน์ แอสตร้าเซนเนก้า แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

ส่วนกรณีที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มีการจัดส่งไปยังต่างประเทศด้วยนั้น นพ.โอภาส ระบุว่า เพิ่งทราบเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่ามา แต่ก่อนหน้านั้น แอสตร้าเซนเนก้าก็ไม่ได้ระบุว่าวัคซีนที่ผลิตในไทยว่าจะมีการส่งให้ต่างประเทศ แต่ในสัญญาจะระบุว่า หากจะมีการส่งออกต่างประเทศก็ขอให้ไทยสนับสนุนส่งออกวัคซีนไปยังต่างประเทศไม่ให้มีการขัดขวางการส่งออกโดยไม่สมควร โดยแอสตร้าเซนเนก้ายังจัดส่งให้ไทยทุกสัปดาห์บางสัปดาห์ก็ส่งให้ 2 ครั้ง 

ส่วนที่มีการรายงานออกมาก่อนหน้านี้ว่า แอสตร้าเซนเนก้าจะส่งวัคซีนให้ไทยครบถึงเดือนพฤษภาคม 2565 นั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือขณะนี้การผลิตของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ในโรงงานผลิตในประเทศไทย พยายามจะผลิตให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะนี้กำลังการผลิตที่ไทยคำนวณอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านโดสต่อเดือน ถ้าคิดคือ 1 ใน 3 จะส่งให้ไทยได้ประมาณ 5 ล้านโดสอย่างต่ำ โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ไม่เคยระบุว่าจะส่งให้ไทยถึงพฤษภาคม 2565 

ทั้งนี้ การผลิตวัคซีนขึ้นอยู่ในหลายปัจจัยและชีววัตถุ หากจะให้บริษัทวัคซีนระบุชัดว่าจะได้จำนวนเท่าใด คงเป็นเรื่องยากที่ทางบริษัทจะรับปากได้ครบถ้วน 100% 

ในสัญญาความต้องการที่ไทยส่งไปยังคงยืนยันอยู่ที่ 61 ล้านโดส ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้ในเดือนธันวาคมปีนี้ คงต้องมีการเจรจาเป็นรายเดือนต่อไป

สธ.เปิดไทม์ไลน์ แอสตร้าเซนเนก้า แจงไม่รู้บริษัทต้องส่งตปท.เท่าไร

สำหรับไทม์ไลน์การจัดส่งวัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า มีรายละเอียดดังนี้

20 ม.ค.64 อย.ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้า โดยตั้งแต่ 28 ก.พ.64 ถึง 16 ก.ค.64 ไทยได้รีบวัคซีนแล้ว จำนวน 8,193,500 โดส แบ่งเป็น

28 ก.พ.64 จำนวน 117,300 โดส

28 พ.ค.64 จำนวน 242,100 โดส

4 มิ.ย.64 จำนวน 1,787,100 โดส

16 มิ.ย.64 จำนวน 610,000 โดส

18 มิ.ย. 64 จำนวน 970,000 โดส

23 มิ.ย. 64 จำนวน 593,300 โดส

25 มิ.ย. 64 จำนวน 323,600 โดส

30 มิ.ย. 64 จำนวน 846,000 โดส

3 ก.ค. 64 จำนวน 590,000 โดส

9 ก.ค. 64 จำนวน 555,400 โดส

12 ก.ค 64 จำนวน 1,053,090 โดส เป็นล็อตญี่ปุ่นบริจาค

16 ก.ค 64 จำนวน 505,700 โดส

ขณะที่ ในส่วนของภาพรวมแผนการฉีดวัคซีนของไทย นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามศักยภาพที่ประมาณการไว้อย่างน้อยคือ 10 ล้านโดสต่อเดือน แผนในขณะนี้ยังคงเป็น 10 ล้านโดสอยู่ โดยมีวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้าที่จะส่งให้จังหวัดต่างๆ กำหนดให้กลุ่มเป้าหมายหลัก แต่กลุ่มเป้าหมาย ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ หากแอสตร้าเซนเนก้าไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ตามที่ไทยประมาณการไว้ แผนสำรอง คือ การหาวัคซีนจากแหล่งอื่นมาเพิ่มเติม เช่น การทำสัญญากับบริษัทไฟเซอร์ และจากแหล่งอื่นในอนาคต

ส่วนกรณีที่บริษัทฯ เคยแนะนำให้ไทยเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX) นพ.โอภาส กล่าวว่า เรื่องนี้มีคณะกรรมการระดับกระทรวงพิจารณาจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงภายหลัง

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง