TNN online ทหารสหรัฐฯ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

ทหารสหรัฐฯ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม

ทหารสหรัฐฯ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม

กองทัพสหรัฐฯ พบทหารเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ครบ 2 เข็ม แม้จะมีสุขภาพแข็งแรงดี

(ภาพจากแฟ้ม)

วันนี้ (1 ก.ค.64) สมาชิกของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เกิดอาการข้างเคียงเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในอัตราที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่า อาการดังกล่าวจะยังพบได้น้อยมาก จากผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาพบว่า ทหารชายสุขภาพแข็งแรง 23 นาย อายุเฉลี่ย 25 ปี บ่นเจ็บหน้าอกภายใน 4 วันหลังฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว สูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้

ผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งขณะที่มีการเผยแพร่ผลการศึกษานี้ หายขาดแล้ว หรือกำลังฟื้นตัวจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ได้รับวัคซีนของทั้งไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) หรือโมเดอร์นา (Moderna)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซี ได้เพิ่มคำเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ผลิตโดยเทคโนโลยี mRNA มีความเสี่ยงที่ในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กผู้ชาย แม้จะเกิดขึ้นได้น้อยมากก็ตาม แต่ยังระบุว่า การฉีดวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ยังคงมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

ผลการศึกษา ซึ่งพิมพ์เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ จามา คาร์ดิโอโลจี (Jama Cardiology) ระบุว่า 19 คนของผู้ป่วยทั้งหมด เป็นสมาชิกของกองทัพสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว ส่วนคนอื่น ๆ มีทั้งได้รับวัคซีนเข็มเดียว หรือถูกปลดประจำการออกจากกองทัพแล้ว

ผลการศึกษา ระบุว่า การประเมินของประชากรทั่วไป คาดการณ์มี 8 คน หรือน้อยกว่าที่เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จากจำนวนสมาชิกทหารชายทั้งสิ้น 436,000 คน ซึ่งได้รับวัคซีนโควิด 2 เข็ม

ซีดีซีเริ่มทำการสอบสวนความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงระหว่างวัคซีน mRNA กับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในเดือนเมษายนที่ป่านมา หลังอิสราเอลแจ้งว่ากำลังศึกษากรณีดังกล่าวในกลุ่มประชาชนที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และหลังจากมีรายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ พบปัญหาดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในหลายประเทศ กำลังทำการสอบสวนด้วยตัวของพวกเขาเอง  


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง