มาเลเซีย ขยายล็อกดาวน์ไม่มีกำหนด หลังติดโควิดรายวันยังพุ่ง
มาเลเซียขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศที่จะสิ้นสุดในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ต่อไปอีก และจะไม่ผ่อนคลายจนกว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันจะต่ำกว่า 4,000 คน
วันนี้ (28 มิ.ย.64) สำนักข่าว Bernama ของทางการมาเลเซีย รายงานอ้างคำแถลงของนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ที่ประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ที่เรียกว่า 'คำสั่งจำกัดการเคลื่อนย้าย' หรือ MCO ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ต่อไปอีกอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะครบเกณฑ์ผ่อนคลายที่กำหนดไว้ทั้ง 3 ประการ
ทั้งนี้ แผนการฟื้นประเทศของรัฐบาล กำหนดเกณฑ์ผ่อนคลาย 3 ประการคือ
- ยอดติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 4,000 คน แต่ขณะนี้ มาเลเซียยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 5,000 คนต่อวันแม้ล็อกดาวน์เข้มมาเกือบ 4 สัปดาห์แล้ว
- ยอดผู้ป่วยไอซียูลดลงเหลือระดับปานกลาง แต่ตอนนี้ การใช้เตียงไอซียูยังอยู่เหนือ 90% ทั่วประเทศ
- ยอดคนเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเพียง 6.2% โดยทางการคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 10% ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลมาเลเซียจะประกาศมาตรการช่วยเหลือทุกภาคส่วนในสังคม ภายในวันจันทร์หรือวันอังคารที่จะถึงนี้
ด้าน กรมอนามัยแจ้งวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5,586 คน ทำให้มีผู้ป่วยรับการรักษาอยู่กว่า 61,000 คน ในจำนวนนี้ต้องอยู่ในห้องไอซียูเกิน 900 คน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเกือบ 500 คน
สำนักข่าว Bernama รายงานเพิ่มเติมว่า มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อสะสม 734,408 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 5,000 คนแล้ว
ขณะที่ นักวิเคราะห์ชี้ว่า คำสั่งขยายล็อกดาวน์ในมาเลเซียจะยิ่งส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศหนักขึ้น จากเดิมที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
แผนฟื้นฟูของมาเลเซียยังคาดการณ์ว่าจะสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจบางส่วนได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงมาต่ำกว่า 2000 คนต่อวัน ส่วนการเปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ รวมถึงการยกเลิกแบนการเดินทาง คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์เกือบเต็มรูปแบบในปีที่แล้ว ทำให้มาเลเซียเกิความสูญเสียทางเศรษฐกิจวันละ 2.4 พันล้านริงกิต หรือราว 18,360 ล้านบาท ในขณะที่การล็อกดาวน์รอบนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียระบุว่า เกิดความเสียหายวันละราวหนึ่งพันล้านริงกิต หรือ 7,650 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน การขยายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลมาเลเซีย ทำให้เกิดแฮชแทค “เคราจาน ซาลิม” หรือ “รัฐบาลที่โหดร้าย” ในทวิตเตอร์ทันที โดยชาวมาเลเซียต่างไม่พอใจที่การล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อนั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของมาตรการเข้มดังกล่าวว่าได้ผลจริงหรือไม่