WHO ห่วงโควิดสายพันธุ์ “เดลต้า” จะระบาดไปทั่วโลก!

วันนี้( 19 มิ.ย.64) ด็อกเตอร์ สุมยา สวามีนาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ “เดลต้า” กำลังกลายเป็นสายพันธุ์ของโควิด-19 ที่พบมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆทั่วโลก เนื่องจากเดลต้ามีความสามารถในการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ผลกระทบของเดลต้า ต่อประสิทธิผลของวัคซีนต้านโควิดที่มีอยู่นั้น ทาง WHO ยังต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเดลต้าจะลดประสิทธิภาพของวัคซีนหรือไม่

ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ หรือ PHE ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยเช่นกันว่า ข้อมูลล่าสุดพบว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วอังกฤษเกือบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อเดลต้า โดยเดลต้ามีสัดส่วนถึง 99% ของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วทั้งอังกฤษ โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อเดลต้าเพิ่มขึ้น 33,630 คนในสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อว่าการระบาดของเดลต้าในครัวเรือนในสหราชอาณาจักรได้แซงหน้า “อัลฟ่า” หรือโควิดกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ ที่เคยเป็นสายพันธุ์ที่ยึดครองสหราชอาณาจักรมาก่อน โดยพบการระบาดของเดลต้าในครัวเรือนของสหราชอาณาจักร มากกว่าอัลฟ่าถึง 65% 

นอกจากนี้ พบว่า เดลต้าระบาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนที่อายุน้อยลง ซึ่งเป็นกลุ่มหลังๆที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด หรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยหรือเพิ่งฉีดไปเพียงเข็มแรก 

ส่วนผลกระทบของเดลต้าต่อประสิทธิผลของวัคซีน ข้อมูลใหม่ล่าสุดที่ PHE เปิดเผยเมื่อวันที่14 มิถุนายน พบว่า วัคซีนของ AstraZeneca มีประสิทธิภาพ 92% ในการช่วยลดความรุนแรงของเดลต้า และทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ส่วนวัคซีนของ Pfizer มีประสิทธิภาพ 96% ในการช่วยป้องกันไม่ให้อาการทรุดจนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังฉีดครบโดส 

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักร เตือนประชาชนยังต้องรักษาระยะห่างโซเชียล ดิสแทนซิ่ง ถึงแม้ว่าได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม

ด้านเยอรมนี โลธาร์ วีลเลอร์ ประธานสถาบันโรเบิร์ต โคชในเยอรมนี ออกมาเตือนในวันเดียวกันว่า แม้ว่าเดลต้ายังมีสัดส่วนเพียง 6% สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ แต่การระบาดของเดลต้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนต้องรีบตื่นตัวระวัง แต่ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เดลต้าจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากกว่าหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีน และการบริหารจัดการการผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด

อย่างไรก็ตาม อัตราการติดเชื้อโควิดในเยอรมนีในรอบ 7 วัน ลดลงเหลือ 10.3 คนต่อประชากร 100,000 คนเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) จากเดิม 12 คนต่อประชากร 100,000 คน และลดลงจากช่วง 7 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งอยู่ที่ 19 คนต่อประชากร 100,000 คน ทำให้ เยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี หวังว่า หากอัตราการติดเชื้อโควิดยังลดลงเช่นนี้ต่อไป ฤดูร้อนในเยอรมนีปีนี้ สถานการณ์โควิดคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี