'อนุทิน' เผยสธ.เซ็นสัญญาซื้อวัคซีนโควิด'ไฟเซอร์'แล้ว 20 ล้านโดส

วันนี้ (10มิ.ย.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุถึงความคืบหน้าว่า ในช่วงบ่ายที่ผ่านมานพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เซ็นสัญญาซื้อ-ขายวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์เรียบร้อย หลังจากบรรลุข้อตกลงในการซื้อขายโดยจะมีเวลา 4 สัปดาห์ในการพิจารณาราคาและเงื่อนไขต่างๆ  แต่การเซ็นสัญญาในวันนี้จะทำให้ บริษัทไฟเซอร์ สามารถมายื่นจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เบื้องต้นจะมีการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมด 20 ล้านโดส 

ส่วนความคืบหน้าวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ขณะนี้รอเอกสารสัญญาจากทางฝั่ง บริษัทจอห์นสันฯตอบกลับมา โดยฝั่งไทยไม่มีปัญหา 

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดส่งบันทึกข้อตกลงสัญญา จัดซื้อ-ขาย วัคซีนกับบริษัทต่างชาติให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด ในการขอความเห็นเพิ่มเติมในเนื้อหา โดยทางอัยการสูงสุดได้ตอบกลับมาหมดแล้ว โดยมีเงื่อนไขที่ทางไทยได้แจ้งกลับไปยังบริษัทคู่สัญญาหมดแล้ว 

ทำให้ภายในปีนี้ไทยจะได้วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ซึ่งเป็นการฉีด 2 เข็ม เป็นการฉีดให้กับประชาชน 10 ล้านคน และวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส เป็นการฉีดเข็มเดียว ในการฉีดให้ประชาชน5 ล้านคน 

นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยจะไม่ขาดวัคซีน เนื่องจากรัฐบาลมีความพยายามในการจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม ทุกวันนี้เราไม่ได้ขาดแคลนวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย อย่างเช่น แอสตร้าเซเนก้าหรือซิโนแวค 

ส่วนการเจราจา ซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม 5 ล้านโดส ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลตอนนี้  

นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ทุกวันนี้ไทยมีการเจรจากับผู้ผลิตทุกเจ้า เพื่อจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติม เพราะคิดว่าโรคโควิดกับเราอีกนาน ทั่วโลกยังมีอยู่ และถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีผลทางวิชาการอย่างชัดเจนว่าคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว เมื่อผ่านไป 9-12 เดือน ภูมิคุ้มกันจะตกหรือไม่ ดังนั้นจึงพิจารณาว่าสำหรับคนที่ได้รับวัคซีนในช่วงก.พ.ที่ผ่านมา ควรจะได้รับวัคซีนซ้ำ เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิฯ

อย่างไรก็ตาม ในการเริ่มปูพรมฉีดวัคซีนของเราตอนนี้ เชื่อว่าถึงปลายเดือนนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ และจะฉีดต่อไปเรื่อยๆ