ซีดีซี สหรัฐฯ แนะฉีดวัคซีนโควิดครบโดส ถอดแมสก์ในที่สาธารณะได้

วันนี้ (14 พ.ค.64) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ออกคำแนะนำเมื่อวานนี้ว่า ประชาชนอเมริกันที่ฉีดวัคซีนโควิดครบแล้วไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากตอนอยู่นอกบ้าน รวมทั้งเวลาที่อยู่ในตัวอาคารส่วนใหญ่ด้วย และไม่ต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพด้วยก็ได้ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการอนุญาตให้เปิดบริการและธุรกิจต่าง ๆ ได้อีกครั้งเร็ว ๆ นี้

คำแนะนำล่าสุดนี้ มีขึ้นขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนเริ่มช้าลง โดยขณะนี้มีชาวอเมริกันประมาณ 35% ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจบ่งบอกถึง “การกลับคืนสู่ภาวะปกติ” พวกเขาหวังว่า จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนออกมาฉีดวัคซีนมากขึ้น และอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังลดลง เมื่อประธานสหภาพแรงงานสหพันธ์ครูชาวอเมริกัน 1.7 ล้านคน เรียกร้องในวันพฤหัสบดีให้กลับมาเปิดโรงเรียนได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ หลังวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ผ่านการอนุมัติให้ใช้สำหรับเยาวชนอายุ 12-15 ปี 

ด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีโดยไม่ได้สวมหน้ากาก ระบุว่า "นี่ถือเป็นหลักไมล์ที่สำคัญ เป็นวันที่ยิ่งใหญ่" และว่า "หากคุณฉีดวัคซีนครบ คุณสามารถถอดหน้ากากออกได้ และมีสิทธิทำในสิ่งที่คนอเมริกันเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก นั่นคือการทักทายด้วยรอยยิ้ม"

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน ตั้งเป้าวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ ชาวอเมริกันต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ได้ 70% อย่างน้อย 1 เข็ม จนถึงขณะนี้ แจกจ่ายวัคซีนไปแล้ว 250 ล้านโดสจากการประเมินล่าสุด

รอชเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC กล่าวว่า ตำแนะนำใหม่นี้อ้างอิงตามตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงอย่างมาก รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนให้กับคนหนุ่มสาว และข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อโคโรนาไวรัสกลายพันธุ์

คำแนะนำใหม่นี้ยังระบุว่า ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางระหว่างเมืองได้ รวมทั้งไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อกลับจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ถึงกระนั้น CDC ยังคงแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากเวลาอยู่ในเครื่องบินหรือรถไฟ รวมทั้งตามสนามบิน สถานีขนส่ง โรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ