TNN online เผยอาการโควิดอินเดีย “หายใจไม่ออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

เผยอาการโควิดอินเดีย “หายใจไม่ออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”

เผยอาการโควิดอินเดีย “หายใจไม่ออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”

อินเดียเผยผู้ติดเชื้อโควิดในรอบนี้ แสดงอาการที่รุนแรง “หายใจไม่ออก” เร็วขึ้นกว่าการระบาดครั้งแรก

การระบาดรอบสองของโควิด-19 ในอินเดียนำไปสู่วิกฤตด้านสาธารณสุข เพราะออกซิเจนกำลังขาดแคลนและเตียงรักษาผู้ป่วยวิกฤจตไม่เพียงพอ จนนานาชาติต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอินเดียแล้ว ขณะที่อินเดียยังพบด้วยว่า ผู้ติดเชื้อในรอบนี้ แสดงอาการที่รุนแรง เช่น หายใจไม่ออก เร็วขึ้นกว่าการระบาดครั้งแรก


***ทำไมระบาดรวดเร็ว***


การระบาดรอบที่สองนั้นกระจายตัวเร็วกว่ารอบแรก และยังไต่เพดานขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะพฤติกรรมที่หย่อนยานของประชาชนและทางการ ในขณะเดียวกัน การระบาดรอบนี้ยังเป็นการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และไวรัสกลายพันธุ์ซ้อนของอินเดีย


ดร. บรามาร์ มุขเคอจี หัวหน้าภาควิชาชีวสถิติจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ติดตามการระบาดในอินเดียอย่างใกล้ชิดและพบว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในการระบาดรอบแรก ในช่วงระยะเวลา 30 วัน คือการกระโดดจากตัวเลข 13,560 คน เมื่อวันที่ 22  มิถุนายน ไปอยู่ที่ 45,601 คนในวันที่  22 กรกฎาคม หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่า


แต่ในการระบาดรอบที่สองนี้ ตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 15,353 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ไปอยู่ที่ 126,276 คนในวันที่ 7 เมษายน หรือเพิ่มขึ้นสิบเท่าในช่วงเวลา 30 วัน


***อาการโควิดรอบนี้ “หายใจไม่ออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”***


บรรดาแพทย์ระบุว่า อาการโดยทั่วไปของการระบาดทั้งสองรอบยังคงเหมือนเดิม แต่ดร. บัลราม พัรคฮางา หัวหน้าสภาการวิจัยแพทย์ของอินเดีย กล่าวว่า คนจำนวนมากขึ้น มีอาการหายใจไม่ออกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่แสดงอาการป่วย ซึ่งแตกต่างจากการระบาดในครั้งแรก ที่ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกในสัปดาห์ที่สอง


อาการหายใจลำบากนี้ เกิดจากเกิดภาวะพายุไซโตไคน์ (cytokine storm) ซึ่งเป็นภาวะที่มีการหลั่งไซโตไคน์ออกมาเป็นจำนวนมากจากการเกิดกระบวนการอักเสบ จนส่งผลกระทบต่อกลไกของร่างกายในการดูดซึมออกซิเจน ซึ่งนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้ป่วยมีระดับออกซิเจนต่ำ และการระบาดในรอบนี้ อินเดียพบว่า มีผู้ติดเชื้อต้องการออกซิเจนถึง 54.5% มากกว่าการระบาดรอบแรกที่มีผู้ป่วยต้องการออกซิเจน 41.1%


***คนหนุ่มสาว-เด็ก ติดเชื้อมากขึ้น***


บรรดาแพทย์สังเกตเห็นปรากฏการณ์นี้ โดยดร. ดิจันต์ ชาสตรี กุมารแพทย์จากรัฐคุชราช ระบุว่า เขาพบการติดเชื้อในกลุ่มคนอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 18 ปีมากขึ้น โดยเขายกตัวอย่างว่า สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ 4 คน แต่สัปดาห์ต่อมา ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50 คน


การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งมากจากการตรวจหาเชื้อในประชากรเด็กที่เพิ่มมากขึ้นและราคาถูกลง นอกจากนี้ มีการตรวจหาเชื้อให้เด็กมากขึ้นในการระบาดรอบนี้ เพราะมีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้น แตกต่างจากรอบแรกที่ผู้ติดเชื้อมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


นอกจากนี้ ตัวเลขของรัฐบาล ยังพบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 10,000 คน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแง่ของอายุผู้ป่วย โยคนไข้มากกว่า 70% มีอายุมากกว่า 40 ปี ในขณะที่คนไข้ที่มีอายุตั้งแต่อรกเกิดไปจนถึง 19 ปี มีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นจากการระบาดรอบแรกซึ่งอยู่ที่ 4.2% ไปเป็น 5.8% ในการระบาดรอบที่สอง และตัวเลขผู้ป่วยกลุ่มอายุ  20-40 ปี เพิ่มขึ้นจาก 23% ในรอบที่แล้ว เป็น 25% ในรอบนี้


***คาดอาจติดเชื้อสูงสุดหลายล้านคนต่อวัน***


สถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ หรือ IHME แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดการณ์ว่า จุดสูงสุดของการระยาดในอินเดียจะอยู่ที่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ดร. มุขเคอจีคาดว่ากลางเดือนพฤษภาคม


เธอระบุว่า อินเดียจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 800,000 ไปจนถึงหนึ่งล้านคนต่อวัน และจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันราว4,500  ราย ขณะที่ IHME คาดว่า อินเดียจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 5 รายต่อวัน (ทั้งแบบที่ได้รับการยินยันและไม่ยืนยัน) และมีผู้เสียชีวิต 5,500 รายต่อวัน ในช่วงสูงสุดของการระบาด


อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้อาจปรับเปลี่ยนได้ จากมาตรการล็อกดาวน์ตามพื้นที่ต่างๆ การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด การจำกัดการเคลื่อนย้ายระหว่างรัฐของผู้คน และการเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 นั่นเอง


***โมดีชึ้ "พายุ" การระบาดกำลังพัดถล่มอินเดีย***


นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวยอมรับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า พายุของการแพร่เชื้อกำลังพัดถล่มอินเดีย และเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 รวมถึงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง


นายโมดีแถลงทางวิทยุ ถ่ายทอดไปทั่วประเทศว่า “เราเคยมั่นใจ จิตวิญญาณของเราเชื่อมั่นหลังเราประสบความสำเร็จในการรับมือการระบาดรอบแรก แต่พายุลูกนี้กำลังสั่นสะเทือนประเทศ”


การแถลงของนายโมดีมีขึ้นขณะที่อินเดียรายงานผู้ติดเชื้อสูงสุดทำสถิติอีกครั้ง โดยมีผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วที่ผ่านมา มากถึง 349,691 คน หรือเกินสามแสนคนติดกันมาสี่วันแล้ว ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 16.96 ล้านคน และเสียชีวิตสะสม 192,311 ราย ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก


***นานาชาติพร้อมช่วยเหลืออินเดีย***


ดร. อาชิช จาห์ คณบดีของวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวว่า อินเดียกำลังเสี่ยงที่จะเปิดหายนะด้านมนุษยธรรมด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯกำลังร่วมมือกับรัฐบาลอินเดีย และจะรีบส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมไปให้อินเดียโดยเร็ว


ทั้งนี้ สหรัฐฯถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจำกัดการส่งออกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนไปยังอินเดีย ทำให้เมื่อเดือนที่แล้ว สถาบันเซรุ่มวิทยาแห่งอินเดีย ได้เรียกร้องประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ให้ยกเลิกมารรการแบนการส่งออกวัตถุดิบดังกล่าว นอกจากนี้ สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯเชื้อสายอินเดียรายหนึ่ง ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไบเดน จัดส่งวัคซีนที่ไม่ใช้ไปให้อินเดียด้วย แทนที่จะปล่อยวัคซีนไว้ในโกดัง


ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า กำลังหาทางส่งออกซิเจนและยารักษาไปให้อินเดียแล้ว หลังได้รับการร้องขอมาจากรัฐบาลอินเดีย ส่วนสหราขอาณาจักรระบุว่า ได้ส่งอุปกรณ์การแพทย์มากกว่า 600 ชุด ที่รวมถึง เครื่องผลิตออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจไปยังอินเดียและคาดว่าจะถึงอินเดียในวันอังคารนี้


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง