TNN online เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง

เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง

ศบค.เคาะมาตรการคุมโควิดระลอกใหม่ยกระดับมาตรการทุกจังหวัด เช็กเลยใครอยู่พื้นที่ไหนทำอะไรได้บ้าง

วันนี้ ( 16 เม.ย. 64 )จากกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่นับวันยิ่งพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  

ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ยันยันว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว  ตามที่ ศบค. เสนอ

 

สำหรับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น  ส่วนพื้นที่เหลือ 59 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม)  

  เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง

อย่างได้ก็ตามศบค.ได้กำหนดข้อห้ามในเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ควบคุมทุกจังหวัดดังนี้ 

  เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง


เช็กเลย!ศบค.ยกระดับควบคุมโควิดทุกจังหวัด ห้ามทำอะไรบ้าง

 

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธินในฐานะโฆษกศบค. ได้เผย 10 ข้อกำหนด ยกระดับควบคุม โควิด-19 โดยเริ่มวันที่ 18 เม.ย.นี้ เป็นระยะยาว 14 วัน โดยมีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้ (ร่าง)ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 20 )

ข้อ 1 การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมหรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค (1) ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทากิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจานวนมากทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่การใช้เป็น ที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือการใช้เป็นสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ อุปการะ หรือการใช้สถานที่ตามข้อยกเว้นที่กาหนดไว้ในข้อ 1 ของข้อกำหนด (ฉบับที่ 16 ) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564            

 

(2) ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจานวนรวมกันมากกว่า ห้าสิบคน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค โดยให้ดาเนินการ ตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ซึ่งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคำแนะนาของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี กำหนดหลักเกณฑ์การ พิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จัดกิจกรรมและ สถานการณ์ในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ

ข้อ 2 การปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร ให้ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณา สั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้า สถานประกอบกิจการ อาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยให้สั่งปิดสถานที่ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยสิบสี่วัน

กรณีที่ผู้มีอานาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อได้มีคาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าวไว้ เป็นการชั่วคราว อย่างน้อยสิบสี่วันแล้วตามข้อกาหนด (ฉบับที่ 19 ) ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2564   ให้คาสั่งดังกล่าว คงมีผลใช้บังคับต่อไป โดยให้ประเมินสถานการณ์และดาเนินการ ตามมาตรการหรือแนวปฏิบัติ ที่นายก รัฐมนตรีกาหนด

ข้อ 3 การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ กำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ เพื่อการบังคับใช้ มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ จาแนกตามเขตพื้นที่ ดังนี้

(1) พื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัด เชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระยอง จังหวัดสงขลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดอุดรธานี รวม 18 จังหวัด เป็น พื้นที่ควบคุมสูงสุด (2 ) พื้นที่ควบคุม ให้พื้นที่จังหวัดอื่นนอกจากที่กาหนดใน ( 1 ) รวม 59  จังหวัด เป็น พื้นที่ควบคุม

ข้อ 4 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ กาหนดมาตรการควบคุม ที่จาเป็นอย่างเร่งด่วน สำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนด เป็นระยะเวลา อย่างน้อยสิบสี่วัน (1) พื้นที่ควบคุมสูงสุดก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้าน ได้ไม่เกิน เวลา 21.00  นาฬิกา และให้จาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 นาฬิกา ในลักษณะของ การนาไปบริโภคที่อื่น ข. การจาหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สาหรับร้านอาหารหรือสถานที่จาหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

ค. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะ คล้ายกัน ให้เปิดดาเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00  นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวน ผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก ที่งดการให้บริการ ง. ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิด ดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา 

 

สำหรับร้าน หรือสถานที่ ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดาเนินการได้ในเวลา 04.00 นาฬิกา จ. สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกาลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน เวลา 21.00 นาฬิกา และสามารถจัดการจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจำกัดจานวนผู้ชม ในสนาม
  

 (2) พื้นที่ควบคุมก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้การบริการจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและ การบริโภคในร้านได้ ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา ข. การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สาหรับร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ค. 

 

ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะ คล้ายกัน ให้เปิดดาเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวน ผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก ที่งดการให้บริการ

ข้อ 5 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง รัฐบาลขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือ ชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขต พื้นที่ควบคุมสูงสุดซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคที่อาจทาให้เสี่ยงหรือมีโอกาสติดโรค การตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการเท่าที่จำเป็น และ เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ให้กระทรวงคมนาคมหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแล การให้บริการ ขนส่งผู้โดยสารที่เป็นการขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยต้องมีการจัดระบบ และระเบียบต่างๆ เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและแนวปฏิบัติตามพื้นที่สถานการณ์ ที่ ศปก.ศบค. กำหนด

 

 ข้อ 6 การจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ ขอความร่วมมือให้ประชาชนเลื่อนหรือ งดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ก่อน ข้อ 7 การดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ขอความร่วมมือให้เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณาและดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากร ในความ รับผิดชอบในช่วงเวลานี้ โดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง การสลับวันทำงาน หรือวิธีการ อื่นใดที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ

ข้อ 8 มาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ ให้ "ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และ สาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19" ร่วมกับ "ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย" และ "ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง" เร่งดาเนินการจัดหาสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับ ดูแลรักษา และ แยกกัก กักกันตัวผู้ติดเชื้อหรือ ผู้มีเหตุอันควรสงสัยว่าติดเชื้อโดยด่วน โดยขอความร่วมมือจากสถานศึกษา มหาวิทยาลัย โรงแรม หอประชุม สถานที่ของเอกชน หรือสถานที่อื่นใดที่มีความเหมาะสม รวมทั้งเตรียมความพร้อมใน การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์เพื่อการตรวจและ รักษาโรค และอุปกรณ์อื่น ที่จาเป็นให้เพียงพอตามมาตรฐานทางสาธารณสุข

ให้ผู้ติดเชื้อทุกรายเข้ารับการตรวจรักษาและแยกกัก ในสถานที่และตามระยะเวลา ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขกาหนด จนกว่าจะได้ตรวจ ทางการแพทย์แล้วว่าพ้นระยะติดต่อของโรค หรือ สิ้นสุดเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรค เพื่อจำกัดการระบาดและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนส่วนรวม ให้ผู้ติดเชื้อหรือ ผู้ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าติดเชื้อรีบแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสาธารณสุข หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ ทันทีเมื่อทราบว่าตนติดเชื้อหรือมีเหตุอันควร สงสัยว่าติดเชื้อดังกล่าว เพื่อรับทราบแนวปฏิบัติตน และแยกกักหรือกักกัน เพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่ จะเข้ารับการตรวจหรือรักษาตามขั้นตอนทางสาธารณสุขต่อไป

ข้อ 9 การประเมินสถานการณ์ ให้ ศปก.ศบค. พิจารณาและประเมินสถานการณ์ เพื่อการ ปรับเปลี่ยนระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการควบคุมแบบบูรณาการรวมทั้งแนวปฏิบัติตามพื้นที่ สถานการณ์ได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในห้วงเวลาต่างๆ และเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุญาต เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจพิจารณาดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด จำกัด หรือ ห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาด ของโรค ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มเติมจากที่กำหนดได้ โดยให้ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการหรือ แนวปฏิบัติที่นายก รัฐมนตรีกำหนด

 

 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2564  เป็นต้นไป

 

 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง