TNN online สธ.ยกระดับ 18 จว.พื้นที่สีแดง ห้ามขายเหล้า-ปิดสถานบันเทิง ชงศบค.พรุ่งนี้

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

สธ.ยกระดับ 18 จว.พื้นที่สีแดง ห้ามขายเหล้า-ปิดสถานบันเทิง ชงศบค.พรุ่งนี้

สธ.ยกระดับ 18 จังหวัดพื้นที่สีแดงสั่งปิดสถานบันเทิง ห้ามจำหน่ายสุราทั่วประเทศ เตรียมชงศบค.พรุ่งนี้

วันนี้ ( 15 เม.. 64 )นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อ covid19 หรือ ศปค.สธโดยศปค.สธมีมติสรุปมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จะเสนอต่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบคได้แก่ มีมติให้สีของพื้นที่ควบคุมแบ่งเป็น สีแดง พื้นที่ควบคุมสูงสุด และสีส้ม พื้นที่ควบคุม 


สำหรับพื้นที่สีแดง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีด้วยกัน 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีชันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง ขอนแก่น


ส่วนสีส้มพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครสวรรค์ ชุมพร พิษณุโลก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ราชบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ลพบุรี มหาสารคาม ตราด ชัยภูมิ อ่างทอง สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุทัยธานี นครนายก สมุทรสงคราม ศรีสะเกษ แม่ฮ่องสอน ยะลา ชัยนาท สิงห์บุรี ลำพูน เพชรบูรณ์ กระบี่ลำปาง กำแพงเพชร สุโขทัย พะเยา หนองคาย เลย พิจิตร ระนอง ร้อยเอ็ด สกลนคร พังงา ยโสธร ปัตตานี แพร่ ตรัง อุตรดิตถ์ น่าน อำนาจเจริญ นครพนม บึงกาฬ พัทลุง กาพสินธุ์ สตูล มุกดาหาร  


สำหรับมาตราการเบื้องต้นที่จะเสนอ ศบค.พิจารณาในวันพรุ่งนี้นั้น ได้แก่ การจำกัดเวลาในการให้บริการของร้านอาหาร โดยสำหรับพื้นที่จังหวัดสีแดงทั้ง 18 จังหวัด ร้านอาหารในพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถเปิดได้ถึง เวลา 21.00 น.  ส่วนพื้นที่สีส้ม 59 จังหวัด ร้านอาหารในพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถเปิดได้ถึง เวลา 23.00 น.

สธ.ยกระดับ 18 จว.พื้นที่สีแดง ห้ามขายเหล้า-ปิดสถานบันเทิง ชงศบค.พรุ่งนี้

ส่วนสถานที่ที่จะมีการเสนอให้ปิดทั่วประเทศ ได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง และอาบอบนวด ซึ่งจะมีการห้ามจำหน่ายสุราและแอลกอฮอร์ทั่วประเทศ งดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ ยกเว้นภายในครอบครัว งดการเรียนการสอนในห้องเรียน งดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน งดเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะกำหนดใช้จนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ก่อน


นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางกลับมาจากภูมิลำเนาหลังเทศกาลสงกรานต์ ขอให้ใช้การทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ work from home อยู่ในภูมิลำเนาเดิมต่อไป ยังไม่ต้องเดินทางกลับมา แต่ในส่วนของบริษัทห้างร้านนั้น ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการจัดให้พนักงาน work from home เพื่อป้องกันการเดินทางมายังที่ทำงานและแพร่กระจายของเชื้อไปสู่ผู้อื่น


ส่วนความคืบหน้าในส่วนของวัคซีนนั้น ในขณะนี้ได้มีการรับวัคซีนมาแล้วราว 1 ล้านโด้ส เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นวัคซีนของซิโนแวค ซึ่งวัคซีนจำนวน 1 ล้านโด๊สที่เข้ามาล่าสุดนั้น จะมีการผันวัคซีนดังกล่าวให้กับบุคลากรทางการแพทย์ให้ครบ 100% ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีความมั่นใจในการเข้าไปดูแลผู้ป่วย ซึ่งในส่วนของวัคซีนนั้น จะเข้ามาเรื่อยๆ 


โดยในวันที่ 27 เม.นี้ ก็จะมีวัคซีนจะเข้ามาอีก 500,000 โดสเช่นกัน ส่วนวัคซีนของแอสตร้าเซเนกร้า นั้น ภายในต้นเดือน มิ.จะเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจะมีการกระจายให้กับประชาชน ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่เข้าข่ายทุกคน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งกรมควบคุมโรคได้มีการทดสอบระบบการฉีดวัคซีนไปแล้วในบางจังหวัด เช่น .ภูเก็ต และ .ชลบุรี โดยสามารถทำยอดการฉีดวัคซีนได้ราว 10,000 โดส ซึ่งหากฉีดวัคซีนได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะสามารถฉีดวัคซีนอีกจำนวน 8 - 10 ล้านโด๊ส ให้เป็นไปตามเป้าภายในสิ้นปีนี้


อย่างไรก็ตามกรณีของอาการไม่พึงประสงค์ที่พบหลังการฉีดวัคซีน ในขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องร้องเรียน รวมไปถึงพิจารณาถึงอาการไม่พึงประสงค์ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่รับได้หรือไม่ ซึ่งก็ยังคงถือว่าอาการไม่พึงประสงค์ที่พบในปัจจุบันนั้น ยังถือว่าเป็นเรื่องที่รับได้

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง