ประเทศแรกในโลก! เดนมาร์กประกาศเลิกใช้วัคซีนโควิดแอสตราเซเนกา

วันนี้ (15เม.ย.64) โซเรน บรอสทรอม ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขเดนมาร์ก แถลงข่าวว่า โครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนของเดนมาร์ก จะเลิกใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ทั้งหมด เนื่องจากผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในผู้ได้รับวัคซีน แม้ว่าผลข้างเคียงดังกล่าวจะพบได้ยาก แต่เป็นผลข้างเคียงที่ร้ายแรง 

ทำให้เดนมาร์กกลายเป็นประเทศที่ประกาศเลิกใช้วัคซีนต้านโควิดของ AstraZeneca ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของสหราชอาณาจักร เป็นประเทศแรกในยุโรปและในโลก

เดนมาร์กจะถอนวัคซีนต้านโควิดของ AstraZeneca ซึ่งมีทั้งหมด 2.4 ล้านโดส ออกจากโครงการฉีดวัคซีนของเดนมาร์ก จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นในอนาคต จะกระทบโครงการฉีดวัคซีนต้องล่าช้าออกไป จากเดิมที่เดนมาร์กกำหนดจะสรุปโครงการฉีดวัคซีนได้ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ต้องล่าช้าไปเป็นต้นเดือนสิงหาคมแทน

การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของเดนมาร์กครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากผลการตรวจสอบของสำนักสาธารณสุขของเดนมาร์กเอง พบว่า จำนวนผู้ที่เกิดผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีนของ AstraZeneca โดยเฉพาะอาการลิ่มเลือดอุดตันนั้น มีจำนวนมากกว่าที่คาด โดยพบอาการลิ่มเลือดอุดตันประมาณ 1 ใน 40,000 คนที่ได้รับวัคซีน และเดนมาร์กพบผู้มีอาการลิ่มเลือดอุดตัน 2 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนตัวนี้ โดย 1 ใน 2 รายเสียชีวิต เป็นหญิงอายุ 60 ปี 

เดนมาร์กยังเพิ่งระงับใช้วัคซีนต้านโควิดของ Johnson & Johnson ตามสหรัฐฯ ด้วย หลังพบปัญหาลิ่มเลือดอุดตันเช่นเดียวกัน และเดนมาร์กเป็นประเทศแรก ที่ระงับใช้วัคซีนของ AstraZeneca เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังมีข่าวพบอาการลิ่มเลือดอุดตันในผู้ได้รับวัคซีนตัวนี้เป็นครั้งแรก 

ทั้งนี้ เดนมาร์กฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็มแรกให้แก่ชาวเดนมาร์กไปแล้วเกือบ 1 ล้านคน จากประชากรเดนมาร์กทั้งหมด 5.8 ล้านคน โดย 77% ได้รับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech อีก 7.8% ได้รับวัคซีน Moderna ส่วนผู้ได้รับวัคซีนของ AstraZeneca ในเดนมาร์กมี 15.3% ของผู้ได้รับวัคซีนต้านโควิดทั้งหมดในเดนมาร์ก

การตัดสินใจของเดนมาร์กไม่สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ยังคงแนะนำให้ใช้วัคซีนของ AstraZeneca ต่อไป แม้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตันก็ตาม แต่พบได้ยากมาก และประโยชน์ที่ได้จากวัคซีน มีมากกว่าความเสี่ยง EMA ระบุด้วยว่า ความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเสียชีวิตจากโควิด มีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเนื่องจากอาการลิ่มเลือดอุดตัน ที่เป็นผลข้างเคียงของวัคซีนจาก AstraZeneca

ก่อนหน้านี้ หลายประเทศยุโรปรวมถึงเดนมาร์กเอง และอีกหลายประเทศทั่วโลก ได้ระงับใช้วัคซีนต้านโควิดของ AstraZeneca ชั่วคราว หลังพบมีผู้เสียชีวิตจากอาการลิ่มเลือดอุดตันจากการได้รับวัคซีนตัวนี้ แต่ประเทศส่วนใหญ่กลับมาใช้วัคซีนของ AstraZeneca แล้ว หลังผลการตรวจสอบของ EMA เมื่อสัปดาห์ก่อน สรุปว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันเกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนตัวนี้จริง แต่พบได้น้อยมาก 

จนถึงวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา พบผู้มีอาการลิ่มเลือดอุดตันทั้งหมด 169 คนในสหภาพยุโรป หรือ EU จากผู้ที่ได้รับวัคซีนของ AstraZeneca 34 ล้านคนทั่ว EU

อย่างไรก็ตาม แม้หลายประเทศจะหวนกลับมาใช้วัคซีน AstraZeneca อีกครั้ง แต่จำกัดให้ใช้ในกลุ่มอายุ 50-60 ปีขึ้นไปเท่านั้น และไม่ให้ใช้ในกลุ่มอายุที่ต่ำกว่านั้น.