ถอดรหัสโควิดกลายพันธุ์คู่ สายพันธุ์ใหม่จากอินเดีย

วันนี้ (26 มี.ค.64) การระบาดของเชื้อโควิด-19กลายพันธุ์ที่สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม เป็นที่น่ากังวลของนานาประเทศ ซึ่งโควิดกลายพันธุ์ที่พบจะมีการเปลี่ยนแปลงโปรตีนตรงส่วนหนาม (spike protein) ของมันซึ่งจะต้านทานแอนติบอดีหรือโปรตีนภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ ปัจจุบัน ได้แก่สายพันธุ์ N501Y ที่พบในประเทศ UK แอฟริกาใต้ บราซิล

สายพันธุ์ E484K  พบในประเทศแอฟริกาใต้

สายพันธุ์ E484Q พบในแอฟริกาใต้ และบราซิล

สายพันธุ์ L452R  พบในรัฐ California ของสหรัฐฯ

และล่าสุด สายพันธุ์ใหม่ ที่พบในอินเดียคือสายพันธุ์ E484Q และ สายพันธุ์ L452R ที่เกิดการกลายพันธุ์คู่พร้อมกันในไวรัสตัวเดียวกัน หรือ mutation เป็น การรวมตัวกันของการเปลี่ยนแปลง 2 ตำแหน่ง ที่ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ประกาศว่าพบมีเชื้อไวรัสโควิด19กลายพันธุ์ชนิดใหม่ เป็นการกลายพันธุ์คู่ หรือเรียก ว่า "Double mutant" ซึ่งสามารถหลบหนีจากภูมิคุ้มกันที่มีการติดเชื้อ  และสามารถแพร่เชื้อได้เร็วเพิ่ม 20%

ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติอินเดีย  รายงานว่า โควิดกลายพันธุ์คู่ ถูกพบครั้งแรกที่เมืองนาคปุระ รัฐมหาราษฏระ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และตอนนี้พบว่ามีอยู่ประมาณ 20% ของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในรัฐนี้  เป็น ศูนย์กลางการค้าหลักและโลจิสติกส์ มีมุมไบเป็นเมืองหลวง 

หากเจาะลึกไวรัสโควิดอินเดียที่กลายพันธุ์คู่ นั้น เกิดการเปลี่ยนแปลง 2 ตำแหน่ง กรดอะมิโน กลูตามิค เอสิด อี Glutamic acid (E) ไปเป็นกลูตามีน คิว Glutamine (Q) ที่ตำแหน่ง 484 โดยตำแหน่งนี้เชื่อว่าเป็นตำแหน่งสำคัญที่โปรตีนสไปค์จะโดนแอนติบอดีมาจับได้  ซึ่งความสามารถคล้ายกับไวรัสสายพันธุ์ E484K ของแอฟริกาใต้ และ บราซิล  ที่พบการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่งนี้  ซึ่งอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนสายพันธุ์ดั้งเดิมน่าจะไหวอยู่

ตำแหน่งที่สอง คือ L452R คือ เปลี่ยนจาก  กรดอะมิโนลิวซีน แอล Leucine (L) ไปเป็นกรอแอมิโนอาร์จินีน อาร์ Arginine (R) ที่ตำแหน่ง 452  ซึ่งพบกลายพันธุ์แถบเมือง LA , California ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญยังศึกษาว่าเป็นสาเหตุทำให้ การระบาดในสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วง2เดือนที่มาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดีย ระบุว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่ยังไม่ถูกตรวจพบในจำนวนมากพอที่จะเชื่อมโยงมันกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐมหาราษฏระและรัฐอื่นๆ ในนั้นรวมถึงรัฐเกรละและรัฐปัญจาบ

ขณะนี้ทางประเทศอินเดียกำลังศึกษาว่า เชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้จะติดต่อง่ายหรือไม่ หรือจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงหรือไม่

ขณะนี้อินเดีย มียอดติดเชื้อสะสม 11,846,652 เป็นอันดับ 3 ของโลก และเสียชีวิตราว 160,000 ราย  สำหรับการระบาดระลอกใหม่ของอินเดีย เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ช่วงนี้เป็นระยะเวลาที่ละเอียดอ่อนสำหรับอินเดียเพราะระบบสาธารณสุขนั้นอ่อนล้าจากการรับมือการระบาดมานานนับปีแล้ว

ตอนนี้บางรัฐเริ่มกลับมาใช้มาตรการจำกัดทางสังคม เช่นการประกาศเคอร์ฟิว หรือการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาด  แต่ยังมีบางรัฐที่ฝ่าฝืนกฎ อย่างที่เมืองมถุรา (Mathura) รัฐอุตตรประเทศ  ซึ่งประชาชนชาวอินเดียผู้นับถือศาสนาฮินดู จำนวนหลายหมื่นคน ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยและยังไม่เว้นระยะห่างทางสังคม  พากันเข้าร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลโฮลี (Holi Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนมีนาคม ขณะที่ อินเดีย กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ในรอบ 4 เดือน